สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำ ประจำวันที่ 8 พ.ค.2563

ร้านทองย่านเยาวราช

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 1 (+200) 09:25

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 2 (+50) 16:15

กลยุทธ์การลงทุนทองคำวันนี้

แนวรับ 1,700 และ 1,680 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,720 และ 1,730 ดอลลาร์

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ คาดว่าในช่วงกลางวันราคาจะเคลื่อนไหวกรอบแคบ โดยนักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งคาดว่ายังช่วยหนุนราคาทองคำ

แนวรับ 1,703 และ 1,690 และ1,675 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,728 และ 1,739 และ 1,747 ดอลลาร์

วันนี้ เน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเสี่ยงเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,706-1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แบ่งขายทำกำไรหากไม่ผ่าน 1,726-1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อ

กรอบราคาช่วงเช้า 1,710 – 1,725 ดอลลาร์
Gold Online Futures
แนวรับ 1,705 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,730 ดอลลาร์
Gold Comex
แนวรับ 1,710 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,745 ดอลลาร์

วันนี้ให้เก็งกำไร Sideway Up ระยะสั้น ๆ ในกรอบ นักลงทุนที่ถือ Long Position ลงซื้อขึ้นขายทำกำไรระยะสั้น และมี Stop Loss ต่ำกว่าแนวรับ นักลงทุนที่ถือ Short Position เน้นปรับพอร์ตสมดุล รอความชัดเจนของทิศทาง กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading รอความชัดเจนของทิศทางและตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้ ไม่ใช้ Leverage เยอะนักและเน้นปรับพอร์ตการลงทุนของท่านให้สมดุลกับการแกว่งของราคา

ขายที่ 1,729 ดอลลาร หรือ บาทละ 26,200 บาท
ซื้อที่ 1,705 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 26,000 บาท

ราคาทองคำปิดเพิ่ม 33 ดอลลาร์รับตัวเลขผู้ว่างงานพุ่ง (Ausiris)

ออสสิริส

08-05-20

ราคาทองคำวานนี้พุ่งขึ้น 33 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,711 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนพากันซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ว่างงานที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ

โดยมีการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจำนวน 3.17 ล้านราย มากกว่าที่คาดไว้ที่ 3.05 ล้านราย ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก

โดยราคาทองคำวานนี้ ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,721 ดอลลาร์ ต่ำสุด 1,682 ดอลลาร์ ก่อนจะปิดที่ 1,711 ดอลลาร์

ขณะที่ กองทุน SPDRไม่มีการเคลื่อนไหว ถือครองทองคำที่ 1075.8 ตัน ส่วนค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.38 บาท ต่อดอลลาร์ แข็งค่า 0.08

กลยุทธ์
ขายที่ 1,729 ดอลลาร หรือ บาทละ 26,200 บาท
ซื้อที่ 1,705 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 26,000 บาท

ขอขอบคุณ บริษัท ออสสิริส จำกัด

ราคาทองปรับตัวบวก คาด Non-Farm Payrolls ดันพุ่งต่อ (MTS)

MTS GOLD

08-05-20

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ Unemployment Claims ที่คาดว่าจะออกมา 3 ล้านราย แต่ตัวเลขจริงออกมามีคนว่างงานมาก กว่าคาดแถว 3.2 ล้านรายโดยประมาณ ด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงจากแนว 100.4 จุดมาที่ 99.6 จุดในเช้านี้ ท่ามกลางการคาดว่าเศรษฐกิจจะยังออกมาแย่แม้สหรัฐฯ มีแผนจะเปิดทำการได้บางส่วน โดยคืนนี้ Non-Farm Payrolls ก็คาดว่าจะออกมาแย่ โดยน่าจะมีการจ้างงานหดตัวไปมากถึง 20 ล้านตำแหน่ง จากเดิม 701,000 ตำแหน่ง ด้านนักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจน่าจะต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และอาจเห็นการใช้นโยบายต่ำกว่าศูนย์

ทั้งนี้ การกลับมาเปิดทำการดูจะส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวสูงขึ้นและทำให้ดัชนี Nasdaq ปิด +1.4% ที่ 8,979.66 จุด อย่างไรก็ดี นอกจาก Non-Farm Payrolls คืนนี้ ก็ยังต้องจับตา Unemployment Rate ที่คาดจะออกมาแย่ลงจากแถว 4% เพิ่มเป็น 16%

มาดูภาพรวมทางเทคนิค ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นระยะสั้น กลับมายืนเหนือ 1,700 เหรียญได้อีกครั้ง หลังจากที่หลุดลงไปทำต่ำสุดบริเวณ 1,670 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาน่าจะรอตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในคืนนี้ และคาดราคาช่วงเช้านี้จะมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,710 – 1,725 ดอลลาร์ ในส่วนของ Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับที่ 1,705 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,730 ดอลลาร์ ขณะที่ Gold Comex จะมีแนวรับที่ 1,710 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,745 ดอลลาร์

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ให้เก็งกำไร Sideway Up ระยะสั้น ๆ ในกรอบ นักลงทุนที่ถือ Long Position ลงซื้อขึ้นขายทำกำไรระยะสั้น และมี Stop Loss ต่ำกว่าแนวรับ นักลงทุนที่ถือ Short Position เน้นปรับพอร์ตสมดุล รอความชัดเจนของทิศทาง กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading รอความชัดเจนของทิศทางและตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้ ไม่ใช้ Leverage เยอะนัก และเน้นปรับพอร์ตการลงทุนของท่านให้สมดุลกับการแกว่งของราคา

ขอขอบคุณ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด

ราคาทองคำมีแนวโน้มดี หลังตัวเลขผู้ว่างงานจากวิกฤต COVID-19 เพิ่มขึ้น (YLG)

YLG BULLION

08-05-20

ราคาทองคำวานนี้ ปิดทะยานขึ้น 30.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1.8% โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจำนวนชาวอเมริกันผู้ยื่นขอสวัสดิ การว่างงานแตะ 3.17 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.05 ล้านราย บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังไม่ฟื้น แม้หลายส่วนของประเทศเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และคงวงเงินในการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวานนี้ ประกอบกับ ความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการทรุดตัวของตลาดแรงงาน ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จึงส่งผลกดดันบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีให้ร่วงลงต่ำกว่า 0.7% จึงเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ และหนุนราคาทองคำทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,722.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน

สำหรับวันนี้ จับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร คาดจะดิ่งลง 22 ล้านตำแหน่งในเดือน เม.ย. ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1939 ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 16% ในเดือน เม.ย. ทั้งนี้ การเปิดเผยตัวเลขอาจสร้างผันผวนให้กับราคาทองคำได้ จึงแนะนำนักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิด

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ แม้จะมีแรงซื้อให้ราคาดีดตัวขึ้น แต่ยังคงเห็นแรงขายกดดันอย่างต่อเนื่อง หากการดีดตัวของราคายังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านระดับ 1,726-1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงสู่ระดับ 1,706-1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้น ประเมินการเคลื่อนไหวของราคาในแบบของการทรงตัวรักษาระดับไว้เพื่อสะสมแรงซื้อ

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเสี่ยงเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,706-1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แบ่งขายทำกำไรหากไม่ผ่าน 1,726-1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อ โดยให้แนวรับราคาที่ระดับ 1,703 ดอลลาร์ และ 1,690 ดอลลาร์ และ 1,675 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ระดับ 1,728ดอลลาร์ และ 1,739 ดอลลาร์ และ 1,747 ดอลลาร์

ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

ราคาทองคำดีดตัวแรง หลังตัวเลขผู้ว่างงานในสหรัฐพุ่ง (HSH)

ฮั่วเซ่งเฮง

08-05-20

ราคาทองคำเมื่อวานนี้ ปรับตัวขึ้นแรงในการซื้อขายช่วงกลางคืน โดยราคาทะลุแนวต้าน 1,700 ดอลลาร์ มาปิดที่ 1,715.60 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น+30.1 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 3.17 ล้านราย สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 3.0 ล้านราย ส่วนธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่า จีดีพีของอังกฤษในปีนี้จะลดลง 14% โดยในไตรมาส 2 จะหดตัวถึง 25%

ทางด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน

ส่วนแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ คาดว่าในช่วงกลางวันราคาจะเคลื่อนไหวกรอบแคบ โดยนักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งคาดว่ายังช่วยหนุนราคาทองคำ โดยคาดการณ์ราคาทองคำวันนี้ มีแนวรับที่ 1,700 ดอลลาร์ และ 1,680 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,720 ดอลลาร์ และ 1,730 ดอลลาร์

โดยการประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน เม.ย. ของสหรัฐ ตลาดคาดจะลดลงถึง 22 ล้านตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งวิกฤตที่สุดใน เดือน เม.ย. หลังจากที่ การจ้างงานในเดือน มี.ค.ลดลง 701,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานเดือน เม.ย. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 16% จากระดับ 4.4% ในเดือน มี.ค.

ขอขอบคุณ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

สัญญาทองคำล่วงหน้า เดือนมิ.ย. ดีดขึ้นขึ้น หลังตัวเลขผู้ว่างงานในสหรัฐสูงกว่าที่คาดการณ์ (อินโฟเควสท์)

ทองรูปพรรณ

08-05-20

สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 37.3 ดอลลาร์ หรือ 2.21% ปิดที่ 1725.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 3.17 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว

ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.05 ล้านราย

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆ ในช่วงครึ่งหลังของเดือน มี.ค. เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ลดลง 0.24% สู่ระดับ 99.85 เมื่อคืนนี้ การที่ดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลง และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

ด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,875.89 จุด เพิ่มขึ้น 211.25 จุด หรือ +0.89% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,881.19 จุด เพิ่มขึ้น 32.77 จุด หรือ +1.15% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,979.66 จุด เพิ่มขึ้น 125.27 จุด หรือ +1.41%…

ขอขอบคุณ อินโฟเควสท์

ศบค. แจง 4 ขั้นตอน ก่อนคลายล็อก ระยะ 2

ตลาด

มาติดตามผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยนายกฯ ระบุว่ารัฐบาลได้ดำเนินการตามมาตรการฉุกเฉิน ระยะที่ 1 อย่างเคร่งครัด ขอให้ปฏิบัติต่อไป ห้ามละเลย และให้ ศบค. รายงานถึงผลกระทบภายหลังการผ่อนคลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงพิจารณาแนวทางการแก้ไข โดยในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทุกคน และพิจารณาเรื่องการเปิดเรียน

ด้านกระทรวงสาธารณสุข เห็นว่า ยังมีความจำเป็นต้องคงมาตรการในประเทศให้เข้มข้น และตรึงการนำเข้าจากต่างประเทศ แม้ว่าสถานการณ์ในไทยจะดีขึ้นตามลำดับ แต่สถานการณ์โลกยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง

ส่วนมาตรการผ่อนปรน หลังจากที่ได้เริ่มไปแล้วบางส่วนเมื่อ 3 พฤษภาคม และจะเริ่มระยะที่ 2 กำลังมีการดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ระดมความคิดเห็นจากส่วนราชการ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอนที่ 2 จัดประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการบังคับใช้มาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2

ขั้นตอนที่ 3 ยกร่างข้อกำหนดตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก. ฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 และขั้นตอนที่ 4 บังคับใช้มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2

ก่อนหน้านี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ระบุว่าหากสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อดีขึ้นเรื่อย ๆ ห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดได้แน่นอน โดยทุกคนจะกลับไปสู่ภาวะปกติของการใช้ชีวิต ที่จะได้มีการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและสังคมเหมือนเดิม โดยช่วงระยะเวลาไทม์ไลน์ คือ 8-12 พ.ค.รับฟังความคิดเห็น วันที่ 13 พ.ค.ซักซ้อมความเข้าใจ วันที่ 14 พ.ค.ยกร่างมาตรการผ่อนปรนระยะที่สอง วันที่ 17 พ.ค.เริ่มผ่อนปรนระยะที่สองในแต่ละธุรกิจ ซึ่งไม่ได้เจาะจงเฉพาะห้างสรรพสินค้า โดยผู้ประกอบการก็ต้องเป็นผู้ที่คิด ร่วมพูดคุยกับทางสมาคมหรือองค์กร แล้วทำข้อคิดเห็น รวมถึงมาตรการการตรวจสอบด้วย ก็จะทำให้การทำงานร่วมกัน ระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว แต่ไม่ได้ขึ้นกับภาคธุรกิจ หรือภาครัฐเพียงอย่างเดียว ประชาสังคมและประชาชนต้องให้ความร่วมมือด้วย

ราคาทองคำเคลื่อนตัวกรอบแคบ รอฟังตัวเลข ศก.สหรัฐ (MTS)

MTS GOLD

07-05-20

เมื่อวานนี้ ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากที่ APD Non-Farm Payrolls ที่ออกมาลดลงกว่า 20 ล้านตำแหน่ง ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

โดยขณะที่ ภาพรวมของผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา โควิด-19 ดูจะดีขึ้น โดยหลาย ๆ ประเทศเริ่มจะผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และอัตราการติดเชื้อเริ่มปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อยหรือทรงตัว ซึ่งภาพรวมมีการติดเชื้อที่ 3,818,791 ราย ในขณะที่ผู้ติดเชื้อในไทยมีการเพิ่มขึ้นเพียง 1 ราย

ภาพรวมตลาดหุ้นยังคงทรงตัว โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับลง 218.45 จุด หรือคิดเป็น -0.91% ที่ 23,664.64 จุด ด้านตลาดหุ้นไทยทรงตัวแนว 1,200 จุด สำหรับดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ด้านเงินบาทอ่อนค่ากลับมาที่ 32.48 บาท/ดอลลาร์

ในคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Unemployment Claims คาดจะออกมาดีขึ้น

มาดูการวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาเล็กน้อยประมาณ 12 เหรียญ โดยเมื่อวาน Gold Spot ยังคงทำต่ำสุดที่บริเวณ 1,685 เหรียญ คาดราคาทองคำจะเคลื่อนตัวกรอบแคบจนกว่าจะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้

โดยช่วงต้นจะมีแนวรับ 1,680 เหรียญ และแนวต้าน 1,700 เหรียญ คาดรอ Unemployment Claims สหรัฐฯ และมีโอกาสทดสอบจุดต่ำสุดเดิมได้แนว 1,672 เหรียญ

ด้าน Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,690 เหรียญ และแนวต้าน 1,710 เหรียญ ทางด้าน Gold Comex จะมีแนวรับ 1,680 เหรียญ และแนวต้าน 1,705 เหรียญ

ในส่วนของทองคำไทยคาดจะปรับลงประมาณ 50 บาท/บาททองคำ โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ให้รอความชัดเจนของทิศทางกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืนนี้ โดยนักลงทุนที่ถือ Long Position แนะเมื่อราคาลดลงซื้อขึ้นขายเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ในกรอบ เน้นบริหารพอร์ตคืนนี้ ส่วนนักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำบริหารพอร์ตสมดุลเป็นหลัก ขณะที่กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading เน้นบริหารพอร์ตสมดุลรอข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯในคืนนี้และวันพรุ่งนี้ ไม่แนะนำให้ใช้ Leverage มากจนเกินไป

ขอขอบคุณ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำ ประจำวันที่ 7 พ.ค.2563

ราคาทองคำวันนี้

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 1 (-100) 09:28

กลยุทธ์การลงทุน

แนวรับ 1,670 และ 1,650 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,700 และ 1,720 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทองคำ คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,670-1,700 ดอลลาร์ ทั้งนี้ราคาทองคำไม่ควรหลุดแนวรับ 1,670 ดอลลาร์ ซึ่งถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะทำให้ราคาทองคำปรับลดลงแรงได้

แนวรับ 1,680 และ 1,668 และ1,657 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,706 และ 1,722 และ1,737 ดอลลาร์
หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,680-1,668 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถเข้าซื้อเพื่อรอขายทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,706-1,722 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขายที่ 1,704 ดอลลาร หรือ บาทละ 26,050 บาท
ซื้อที่ 1,680 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 25,900 บาท

ราคาทองคำยังผันผวน รับทั้งข่าวดีและข่าวร้าย (YLG)

YLG BULLION GOLD

07-05-20

ราคาทองคำวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง 21.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ1.2% มาอยู่ที่ระดับ 1686.60 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลัง ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 20,236,000 ตำแหน่ง ในเดือน เม.ย. แม้จะเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลในปี 2002 แต่กลับออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ว่าจะลดลงมากถึง 20,500,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของยูโร ทั้งนี้ ยูโรได้รับแรงกดดันทั้งจากการที่ศาลเยอรมนีสั่งสอบธนาคารกลางยุโรป (ECB) กรณีซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ QE รวมไปถึงการที่คณะกรรมาธิการยุโรป คาดว่า GDP ของสหภาพยุโรป จะหดตัว -7.4% ในปี 2020

สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,680.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน ก่อนที่ราคาจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายตลาด โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับตลาดแรงงาน และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงดำเนินต่อไป

ล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมากดดันจีนเพิ่มด้วยการระบุว่า “กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด” ว่าจีนจะซื้อผลิตภัณฑ์ของสหรัฐในระดับที่สอดคล้องกับข้อตกลงการค้าเฟส 1 หรือไม่ ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามาช่วยพยุงราคาเอาไว้

มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ระยะสั้นราคาพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,706 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้แข็งแกร่ง ทำให้ประเมินว่า ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ แนวต้านถัดไป 1,722 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,680-1,668 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,680-1,668 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถเข้าซื้อเพื่อรอขายทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,706-1,722 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด