ราคาทองคำดีดตัวแรง นักลงทุนหันไปให้น้ำหนักปัญหาสหรัฐ-จีน (MTS)

MTS GOLD

15-05-20

ราคาทองคําปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เปิดตลาด COMEX ขึ้นมา และ SPDR มีการเข้าซื้อทองคําเพิ่มประมาณ 12 ตัน ถือครองทองคําสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี โดยที่ตลาดคลายความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนา และการที่หลายๆ สถานที่จะกลับมาเปิดทําการอีกครั้ง หลังจากที่ภาพรวมดูจะควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดปรับเพิ่มขึ้น ท่ามกลางตลาดคลายความกังวล แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะออกมาแย่ตามคาดการณ์ เช่น Unemployment Claims ที่มีผู้ขอรับสวัสดิการว่างานเพิ่มขึ้นกว่า 2.9 ล้านรายโดยประมาณ ส่วนดัชนีดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อย หลังผิดหวังจากถ้อยแถลงของประธานเฟดที่จะไม่ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ

ขณะที่ ตัวเลขสําคัญคืนนี้จะเป็นด้านยอดค้าปลีกและอุตสาหกรรมการผลิตสหรัฐฯ ก็ดูจะออกมาแย่ลงทุกตัว ได้แก่ Core Retail Sales, Retail Sales, Empire State Manufacturing Index, Industrial Production, Prelim UoM Consumer Sentiment และ JOLTS Job Openings

อย่างไรก็ดี ตลาดโดยทั่วไปเริ่มกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกมาให้ความเห็นในเชิงไม่พอใจที่จีนไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสและทําให้เกิดการระบาดไปทั่วโลก

มาดูการวิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค ราคาทองคําทําจุดสูงสุดใหม่รอบ 2 สัปดาห์ และไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมเดือนที่แล้วบริเวณ 1,740 ดอลลาร์ โดยคาดว่าราคาทองคํามีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง วันนี้ Gold Spot คาดจะมีแนวรับ 1,710 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,740 ดอลลาร์ ในส่วนของ Gold Online Futures จะมีแนวรับที่ 1,716 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,745 เหรียญ ขณะที่ Gold Comex จะมีแนวรับ 1 ,720 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,750 ดอลลาร์

ส่วนกลุยทธ์การลงทุน เก็งกําไรขาขึ้นระยะสั้น หลังราคา Breakout จากกรอบสามเหลี่ยมในภาพราย 4 ชั่วโมงได้ มี Stop Loss หากตํ่ากว่าแนวรับ โดยนักลงทุน Long Position หากราคาลงให้เข้าซื้อและเมื่อราคาขึ้นให้ขาย หาจังหวะทํากําไรในกรอบขาขึ้นตั้ง Stop Loss หากตํ่ากว่าแนวรับ ส่วนนักลงทุน Short Position ไม่แนะนําให้ถือสถานะในเวลานี้ ขณะที่ นักลงทุน WEEKLY TRADING เน้นบริหารพอร์ตสมดุลกับทิศทาง

ทั้งนี้ ให้แนวต้านไว้ที่ระดับ ราคา 1,754 ดอลลาร์ แล1,740 ดอลลาร์ ส่วนราคาแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,710 ดอลลาร์ และ1,705 ดอลลาร์

ขอขอบคุณ : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด

ราคาทองคำยังสดใส หลังทะลุแนวต้านด้านเทคนิคได้ (HSH)

ฮั่วเซ่งเฮง

15-05-20

ราคาทองคำเมื่อวานปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังได้รับแรงหนุนจากการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.98 ล้านราย สูงกว่าคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.5 ล้านราย ทั้งนี้ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรวม 36.5 ล้านรายในช่วง 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของประชากรในวัยทำงาน ขณะที่กองทุน SPDR ซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยซื้อทองคำสูงถึง 12.58 ตันเมื่อวาน

ส่วนทิศทางค่าเงินบาทในวันนี้ คาดว่าจะทรงตัว โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะไม่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดย USD Futures เดือนมิ.ย.63 คาดจะมีแนวรับที่ 32 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่32.20 บาท/ดอลลาร์

ทั้งนี้ ราคาทองคำได้ทะลุแนวต้านทางด้านเทคนิคที่ระดับ 1,724 ดอลลาร์ ทำให้มีแนวโน้มปรับขึ้นไปได้ต่อ โดยมีแนวต้านลำดับต่อไปที่ระดับ 1,736 ดอลลาร์ และที่ 1,746 ดอลลาร์ ส่วนในระยะสั้นคาดว่าอาจติดแนวต้านที่ 1,736 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับ 1,710 ดอลลาร์ และ 1,690 ดอลลาร์

ส่วนประเด็นที่น่าจับตามมองในคืนนี้ คทอ สหรัฐจะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัว ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือน เม.ย. ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือน พ.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. และจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือน เม.ย. ที่สำคัญคือยอดค้าปลีกเดือน เม.ย. ตลาดคาดจะลดลง 12% หลังจากที่เดือน มี.ค.ลดลง 8.7% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 68.0 จากระดับ 71.8 ในเดือน เม.ย.

ขอขอบคุณ : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ (Ausiris)

Ausiris

15-05-20

ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวขึ้น 14 ออนซ์ ปิดที่ 1,729 ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานกว่า 2.9 ล้านรายในสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนัก

ทั้งนี้ ราคาทองคำวานนี้ ทำจุดสูงสุดที่ 1,736 ออนซ์ จุดต่ำสุดที่ 1,710 ออนซ์ ปิดที่ 1,729 ออนซ์

ขณที่กองทุน SPDR ถือครองทองคำ 1,104.72 ตัน เพิ่มขึ้น 12.58 ตัน ส่วนค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.09 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า 0.02

คำแนะนำการลงทุน

ขายที่ 1,740 ดอลลาร หรือ บาทละ 26,250 บาท

เข้าซื้อที่ 1,720 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 26,050 บาท

ขายเฉลี่ย ที่ ระดับ 1,750 ดอลลาร์ หรือที่บาทละ 26,380 บาท

ขอขอบคุณ บริษัท ออสสิริส จำกัด

ราคาทองคำทะยาน หลัง “ทรัมป์” ออกโรงป่วนจีนอีกระลอก (YLG)

YLG BULLION GOLD

15-05-20

ราคาทองคำวานนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.92 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาปิดที่ระดับ 1,731 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาดโดยพุ่งไปแตะ 2.981 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว รวมแล้วชาวอเมริกันถูกปลดจากงานเกือบ 36.5 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของประชากรในวัยทำงานทั้งหมด ภายในเวลาเพียง 8 สัปดาห์

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐที่ตึงเครียดมากขึ้น ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผ่าน FOX Business ว่าไม่สนใจที่จะสนทนากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในขณะนี้ พร้อมแสดงความผิดหวังที่จีนล้มเหลวในการควบคุม COVID-19 อีกทั้งยังขู่อีกว่าอาจตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับจีน

ประเด็นที่กล่าวมา กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์บริเวณ 1,736.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐก็ตาม

ด้านกองทุน SPDR ที่ถือครองทองคำเพิ่ม 12.58 ตันสู่ระดับ 1,104.72 ตันซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 2013 ทำให้ในปี 2020 กองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มแล้วถึง 211.47 ตัน สะท้อนกระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำแข็งแกร่ง

ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้ หากราคายังคงพยายามยืนเหนือ 1,726-1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หลายชั่วโมง มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,739-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถยืนเหนือแนวรับแรกได้ จะเกิดแรงขายออกมาเพิ่มโดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,709 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน หลังจากราคาดีดตัวขึ้นแรงมีอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น หากราคาทดสอบแนวรับโซนที่ 1,726-1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนได้อาจเกิดแรงซื้อทำกำไรเข้ามา เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นจะมีแนวต้านบริเวณ 1,739-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

ราคาทองคำพุ่งแรงหลังปัญหาแรงงานสหรัฐหนักกว่าที่คาดคิด (อินโฟเควสท์)

ทองรูปพรรณ

15-05-20

สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 1,740.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพิ่มขึ้น 24.50 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.ปีนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 2.981 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5 ล้านราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นเกือบ 36.5 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของประชากรในวัยทำงานทั้งหมดของสหรัฐ นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในช่วงครึ่งหลังของเดือน มี.ค.เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นักวิเคราะห์จากบริษัทแกรไนท์แชร์ส กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ และรัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น อาจทำให้สหรัฐเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวนับเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทอง 0.8% สู่ระดับ 1,092.14 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี

ด้านดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 23,625.34 จุด เพิ่มขึ้น 377.37 จุด หรือ 1.62% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นธนาคารรายใหญ่ที่ถูกเทขายในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 9% ซึ่งคำสั่งซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นทั้งสองกลุ่มได้ช่วยพยุงตลาดขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากที่ถูกกดดันในช่วงแรกจากรายงานตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐที่สูงเกินคาด

ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,852.50 จุด เพิ่มขึ้น 32.50 จุด หรือ +1.15% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,943.72 จุด เพิ่มขึ้น 80.56 จุด หรือ +0.91%

ส่วนดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.23% สู่ระดับ 100.48 โดย แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.23 เยน จากระดับ 106.99 เยน แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9744 ฟรังก์ จากระดับ 0.9723 ฟรังก์ ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0782 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0815 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2193 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2218 ดอลลาร์

ขอขอบคุณ : อินโฟเควสท์

ดัชนีทองคำเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน กูรูแนะจับตาผลการคลายล็อคดาวน์ทั่วโลก (GRC)

GOLD Research Center

ศูนย์วิจัยทองคำ ได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พฤษภาคม 2563 พบว่าปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน เมษายน 2563 ที่ผ่านมา 0.40 จุด จากระดับ 67.93 จุด มาอยู่ที่ระดับ 68.33 จุด คิดเป็น 0.59% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้น มาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ

ส่วนความต้องการซื้อทองคำช่วงเดือน พฤษภาคม 2563 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 303 ตัวอย่าง พบว่าร้อยละ 40.93 ยังไม่ตัดสินใจซื้อทองคำ ร้อยละ 37.29 ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ และร้อยละ 21.78 คาดว่าจะซื้อทองคำ

ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่อ้างอิงกับราคาทองคำ 10 ราย 5 ราย เชื่อว่าราคาทองคำในนี้จะเพิ่มขึ้น 3 รายคาดว่าราคาจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา ที่เหลือคาดว่าราคาทองคำจะลดลง

ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีมุมมองราคาทองคำในเดือน พฤษภาคม 2563 ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,646 – 1,761 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณบาทละ 25,200 – 26,700 บาท ขณะที่ค่าเงินบาทจะอยู่ในกรอบเฉลี่ยบริเวณ 32.06 – 32.85 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ ระบุว่า ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ ให้ความเห็นว่าราคาทองคำในเดือนที่ผ่านมาสร้างสถิติสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีครึ่ง แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่ยังคงพยายามรักษาระดับไว้ พร้อมแนะให้ติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 หลังการพิจารณาผ่อนปรนเกณฑ์ต่าง ๆ ของมาตรการปิดเมือง (Lock Down) หากนโยบายการผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง สามารถดำเนินการอย่างราบรื่น จะทำให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้น แต่หากไม่เป็นไปตามคาดการณ์ รวมทั้งเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงเพิ่มขึ้น ตลาดเงิน และตลาดทุน รวมทั้งตลาดทองคำอาจเกิดความผันผวนเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

เกาะติดสถานการณ์ทองคำใกล้ชิด หลังสัญญาณเทคนิคเตรียม Breakout

ธีรรัฐ จุฑาวรากุล Inter Gold

มาติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่าราคายังวิ่งอยู่ในกรอบ 1,690-1,720 ดอลลาร์ และการขึ้นลงของราคาจะอยู่ในกรอบแคบ ๆ

โดยราคาทองคำได้เคลื่อนไหวในลักษณะนี้เป็นมาตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. ซึ่ง นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด ให้ความเห็นกับ GoldAround.com โดยมองว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ จะเป็นลักษณะของเทคนิคนำผลกระทบจากข่าวที่ออกมา

ก่อนหน้านั้น กรอบการเคลื่อนไหวของราคาอยู่ระหว่าง 1,640-1,740 ดอลลาร์ หรือประมาณ 100 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มลดแคบลงเหลือ 70 ดอลลาร์ ลดลง 40 ดอลลาร์ และในระยะหลังเหลือเพียง 10 กว่าดอลลาร์ และตัวเลขแนวรับเริ่มขยับสูงขึ้น ขณะที่ตัวเลขแนวต้านเริ่มต่ำลง เมื่อมองจากกราฟราย 4 ชั่วโมง จะยิ่งเห็นชัดว่า การเคลื่อนไหวของราคาเป็นแบบแพทเทิร์นสามเหลี่ยม และเริ่มใกล้กันมาก

จากการเคลื่อนไหวของราคาในลักษณะนี้ ทำให้คาดว่าราคาเตรียมที่จะเบรกแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะเบรกในทางขึ้นหรือทางลง หากราคาสามารถยืนในระดับ 1,720 ดอลลาร์ ได้นาน 4 ชั่วโมง ก็คือว่าราคาเบรกในขาขึ้นแล้ว จากนั้นคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 1,740 ดอลลาร์ และเป้าหมายที่สูงกว่านั้น

ในทางกลับกันหากราคายืนระดับ 1,690 ดอลลาร์ได้นาน 4 ชั่วโมง ก็ถือว่าเบรกในแนวรับ คาดว่าราคาจะร่วงไปแถว 1,660 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง แต่หากหลุดไป ก็ไม่น่าจะพ้นระดับ 1,640 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมนายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ขอให้รอฟอลลโลว์การเบรกครั้งที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าไม่เกินกลางอาทิตย์หน้าน่าจะได้เห็น อย่างไรก็ดีส่วนตัวมองว่าแนวโน้มที่จะเบรกในฝั่งขาขึ้นมีมากกว่าขาลง

เนื่องจากในภาพใหญ่ ราคาทองคำยังเป็นช่วงขาขึ้น และปัจจัยหนุนต่าง ๆ ก็ยังมีมากกว่าปัจจัยที่จะทำให้ราคาทองคำลดลง ที่สำคัญคือการลงทุนในตลาดหุ้นใกล้จะจบรอบการรีบาวด์แล้ว

ส่วนภาพรวมของการลงทุนทองคำ ขณะนี้ถือว่าบางเบามาก ปริมาณการซื้อขายลดลงกว่าช่วงไตรมาสแรกถึง 50 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุมาจากผู้เล่นรายหลัก ๆ ไม่อยู่ ประกอบกับช่องว่างส่วนต่างราคา รับซื้อ และ เสนอขาย ยังต่างกันระดับบาทละ 90-100 บาท จากเดิมที่อยู่ระดับเพียงแค่บาทละ 30 บาท

ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ก็คือผลกระทบจากเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศจะดีขึ้นแล้ว และบางประเทศจะมีมาตรการคลายล็อคดาวน์ในบางส่วน

แต่สถานการณ์การผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งกว่าที่สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ คนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการค้าทองคำกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม คงจะกินเวลาไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำ ประจำวันที่ 14 พ.ค.2563

ทองรูปพรรรณ

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 1 (+100) 09:25

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 2 (+50) 10:19

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 3 (+50) 16:37

กลยุทธ์การลงทุนทองคำวันนี้

แนวรับ 1,700และ 1,690 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,724 และ 1,736 ดอลลาร์

มาดูการเคลื่อนไหวราคาทองในด้านเทคนิค พบว่าเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยม ในกรอบระหว่าง 1,690-1,724 ดอลลาร์ คืนนี้ติดตามการตัวจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 5 ล้านราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทสหรัฐมีการปลดพนักงานลดลง แต่ต้องติดตามว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์จะออกมาสูงกว่าหรือต่ำกว่าที่ตลาดคาด

แนวรับ 1,697 และ 1,686 และ1,668 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,723 และ 1,739 และ 1,747 ดอลลาร์

วันนี้ ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,720-1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,700-1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขายที่ 1,725 ดอลลาร หรือ บาทละ 26,050 บาท
ซื้อที่ 1,700 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 25,820 บาท

ราคาทองคำพุ่ง หลัง ปธ.ชี้ควรปรับนโยบายการแก้วิกฤต ศก.สหรัฐ (HSH)

ฮั่วเซ่งเฮง

14-05-20

ราคาทองคำ เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงในช่วงขาลง และควรใช้มาตรการทางด้านการคลังมากกว่ามาตรการทางด้านการเงิน ด้วยการใช้มาตรการทางภาษีและการใช้จ่ายของรัฐ ขณะที่เฟดจะไม่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเมื่อวานซื้อทองคำ เพิ่มอีก 8.48 ตัน

มาดูการเคลื่อนไหวทองคำทางด้านเทคนิค พบว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยม โดยเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,690-1,724 ดอลลาร์ ซึ่งราคาทองคำคาดปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,724 ดอลลาร์ ถ้าทะลุแนวต้าน 1,724 ดอลลาร์ จะมีโอกาสขึ้นไปที่แนวต้าน 1,736 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับ 1,700 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,690 ดอลลาร์

ส่วนทิศทางค่าเงินบาทในวันนี้คาดจะอ่อนค่าลง โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ ปลอดภัยและมีสภาพคล่องมากที่สุด หลังจากที่ประธาน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความ เสี่ยงในช่วงขาลง โดย USD Futures เดือน มิ.ย.63 คาดจะ มีแนวรับที่ 32 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 32.20 บาทต่อดอลลาร์

มาดูประเด็นที่น่าติดตามในคืนนี้ คือการแถลงของประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส นอกจากนี้คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 5 ล้านราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทสหรัฐมีการปลดพนักงานลดลง แต่ต้องติดตามว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์จะออกมาสูงกว่าหรือต่ำกว่าที่ตลาดคาด

แนวรับ 1,700และ 1,690 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,724 และ 1,736 ดอลลาร์

ขอขอบคุณ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำดีดตัวแรง หลัง ปธ.เฟด ชี้ ศก.สหรัฐ เสี่ยงทรุดจาก COVID-19 (Ausiris)

ออสสิริส

14-05-20

ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวขึ้น 13 ดอลลาร์ มาปิดที่ 1,715 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงในช่วงขาลง

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลงลง 1.3% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.2% ในเดือน มี.ค. โดยการร่วงลงของดัชนี PPI ในเดือน เม.ย. ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสหรัฐจะเผชิญภาวะเงินฝืดในช่วงสั้นๆ ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบอุปสงค์

สำหรับราคาทองคำเมื่อวานนี้ทำจุดสูงสุดที่ 1,717 ดอลลาร์ จุดต่ำสุดที่ 1,699 ดอลลาร์

ขณะที่กองทุน SPDR ซื้อทองเข้าเพิ่มถึง 8.48 ตัน รวมถือครอง 1,092.14 ตัน

ส่วนค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.07 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า 0.04

กลยุทธ์

ขายที่ 1,725 ดอลลาร หรือ บาทละ 26,050 บาท
ซื้อที่ 1,700 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 25,820 บาท

ขอขอบคุณ : บริษัท ออสสิริส จำกัด