photo by Pixabay | pexels.com

2 วาณิชธนกิจรายใหญ่ ชี้ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยทุกครั้งที่ประชุม

หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ได้พุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง จนทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้บรรดาวาณิชธนกิจรายใหญ่ ได้ออกมาคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องดำเนินมาตรการคุมเข้มมากขึ้น ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในปี 2565 เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น

หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ได้พุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง จนทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี

ทำให้บรรดาวาณิชธนกิจรายใหญ่ ได้ออกมาคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องดำเนินมาตรการคุมเข้มมากขึ้น ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในปี 2565 เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น

ล่าสุด ทาง มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% รวม 6 ครั้งในปีนี้

รวมทั้งสิ้น 1.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยเริ่มจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายในเดือน มี.ค. ตามด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือน พ.ค., มิ.ย., และ ก.ค. และ จะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในเดือน ก.ย. และ ธ.ค.

ขณะที่ JP Morgan ได้คาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED มากถึง 9 ครั้ง

โดยจะปรับขึ้นติดต่อกันในทุกการประชุมที่จะมีขึ้นในช่วง 1 ปีข้างหน้า

หากเป็นอย่างที่ JP Morgan คาดการณ์ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ กลับขึ้นไปสูงถึง 2.25% – 2.5% ภายในต้นปี 2566 ซึ่งถือเป็นมุมมองของการขึ้นดอกเบี้ยที่สูงที่สุด ในบรรดาเหล่าธนาคารยักษ์ใหญ่ที่ได้ออกมาคาดการณ์อยู่ในเวลานี้

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า หาก FED ขึ้นดอกเบี้ยตามที่ JP Morgan คาดการณ์ไว้ จะกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึง Bitcoin ด้วย