สรุปทิศทาง ราคาทองคำ 20 ธ.ค.65
ราคาทองคำวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง $5 โดยดีดตัวขึ้นในต้นการซื้อขาย หลังดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง จากการแข็งค่าของเยน และ เงินยูโร หนุนให้ราคาทองคำขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ $1,794
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงในช่วงตลาดสหรัฐฯ หลังดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ฟื้นตัว ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า และมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงตลอดปี 2023
ขณะที่ Fed Fund Futures กำลังปรับสมดุลความคิดเห็นของ ทั้งเรื่องตลาดที่ยังคงกังวล กรณีเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะถดถอยเร็วขึ้น
ทำให้โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าอาจเป็นได้ทั้ง +0.25% หรือ +0.50% ซึ่งกดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงด้วยกันทั้งคู่
แต่เนื่องจากความไม่ชัดเจนดังกล่าว ราคาทองคำจึงแกว่งตัวในลักษณะที่มีแนวโน้มว่าจะอ่อนตัวลดลง ทำให้เมื่อวานนี้ราคาทองคำกลับมาปิดตลาดที่ 1,791 ดอลลาร์
ทั้งนี้ T.D.C. Gold มองว่า
เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้จะไม่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่มีนัยยะสำคัญ นักลงทุนยังคงระมัดระวังถึงแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า
ประกอบกับ ทิศทางดอกเบี้ยที่ยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตัวกดดันราคาทองคำ ซึ่งคาดว่า ราคาจะยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบไปอีกสักระยะหนึ่ง แนวรับระยะสั้น 1,780-1,785 ดอลลาร์
ขณะที่ YLG มองว่า
วันก่อนหน้าราคาอ่อนตัวลง หากราคาฟื้นตัวขึ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,799-1,808 ดอลลาร์ (1,799 ระดับสูงสุดของวันก่อนหน้า) อาจมีแรงขายออกมาเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม หากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับ ระยะสั้นอยู่ที่ 1,774-1,765 ดอลลาร์ ซึ่งแรงขายอาจชะลอตัว หรืออาจเกิดการดีดตัวขึ้นช่วงสั้น ราคาจะแกว่งตัวออกด้านข้าง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำเปิดสถานะขาย ที่ 1,799-1,808 ดอลลาร์ ซื้อคืนเพื่อทำกำไร ที่ 1,774-1,765 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน 1,824 ดอลลาร์
มาดูราคาทองคำในประเทศไทยที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ
วันนี้ (20 ธ.ค.) ราคายังไม่ขยับ ทำให้ราคาล่าสุด (10.45 น.) อยู่ที่ 29,600 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 29,500 บาท
ด้านกองทุน SPDR Gold Trust
ซื้อทองคำ 1.73 ตัน รวมถือครองทองคำทั้งสิ้น 912.14 ตัน
ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้
สหรัฐฯ จะประกาศยอดการขออนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย และจำนวนบ้านใหม่ที่เริ่มสร้างแล้ว ประจำเดือน พ.ย. ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีผลมาจากการที่ดอกเบี้ยในตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น
อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวถือว่ายังอยู่ในแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่วิกฤตซับไพรม์เป็นต้นมา
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น