ภาพรวม ราคาทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และราคาทองคำได้ลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 11 เดือนที่ 1,697 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ทำลายสถิติต่อเนื่องเช่นกัน
ท่ามกลางความกังวลว่า เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรง ถึงระดับ 1 % ในการประชุม FOMC วันที่ 26-27 ก.ค. ซึ่งถือว่าเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะหลังแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคเดือน มิ.ย. แตะระดับ 9.1%
อย่างไรก็ดี ในช่วงท้ายสัปดาห์ราคาทองคำได้ฟื้นตัวกลับมา หลังดัชนีดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าท่ามกลางแรงขายดอลลาร์เพื่อทำกำไร หลังจากดอลลาร์ทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ย. 2002 ที่ 109.29 ในวันพฤหัสบดี
ประกอบกับ ประธานเฟดแอตแลนตา ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงเกินไป อาจบ่อนทำลายแนวโน้มเชิงบวกในระบบเศรษฐกิจ และทำให้ความไม่แน่นอนที่มีมากอยู่แล้วยิ่งเพิ่มขึ้น
สถานการณ์ดังกล่าว บั่นทอนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ลง สะท้อนจาก FedWatch Tool ของ CME Group ที่บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 28.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ลดลงจากการคาดการณ์ในช่วงวันพุธอย่างมาก ทำให้ดัชนีดอลลาร์ให้อ่อนค่าจนเป็นปัจจัยพยุงราคาทองคำกลับมาปิดตลาดที่ ระดับ 1,707 ดอลลาร์
ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเช้าที่ผ่ามมา ได้ฟื้นตัวขึ้นมาแตะระดับ 1,715 ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย
ทั้งนี้ Shining Gold Bullion มองปัจจัยทางเทคนิคว่า
ใน TF รายเดือน ราคากดตัวลงแต่หากพิจารณาตาม Pattern Double Top-Bottom หากราคาทองคำไม่หลุด 1,770 ดอลลาร์ ลงไป บริเวณช่วงนี้ก็ถือเป็นระดับ Low ต่ำ ๆ ของเทรนด์ขาขึ้นเลยทีเดียว
ขณะที่ TF รายสัปดาห์ ยังไม่พบสัญญาณการกลับตัว แต่ก็ยังคงลุ้นการกลับตัวได้ หากสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันสำเร็จ คือ 1,785 ดอลลาร์ ส่วน TF รายวันพยายามทำ Technical Rebound แต่ยังอยู่ในกรอบจำกัด
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ นักลงทุนระยะสั้น ย่อตัว Open Long ที่ 1,692 และ 1,678-1,675 ดอลลาร์ โดยมี SL ที่ 1,670 ดอลลาร์ นักลงทุนระยะกลางรอซื้อที่ 1,686-1,675 ดอลลาร์ SL ที่ 1,670 ดอลลาร์
ส่วน YLG มองว่า
ระยะสั้น หากราคาทองคำเกิดแรงซื้อสลับเข้ามาเพิ่มขึ้น ขณะที่แรงขายเข้ามากดันในระดับสูงเช่นกัน อาจทำให้ราคาแกว่งตัวในกรอบเพื่อสร้างฐานราคา
ทั้งนี้ หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,700-1,697 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ ราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นช่วงสั้นทดสอบแนวต้านโซน 1,736-1,751 ดอลลาร์ ถ้าไม่สามารถยืนไม่ได้ อาจเกิดแรงขายกดให้ราคาอ่อนตัวลงอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เปิดสถานะซื้อ 1,700-1,697 ดอลลาร์ ขายทำกำไรที่ 1,736-1,751 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 1,697 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ยังเท่ากับราคาปิดเมื่อวันเสาร์ ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (10.15 น.) อยู่ที่ 29,700 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 29,600 บาท ทั้งนี้ ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำในประเทศลดลงบาทละ 100 บาท
ขณะที่ ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ทึ่ 36.58 บาทต่อดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ ที่ระดับ 36.60 บาทต่อดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่า เนื่องจากมีแรงเทขายทำกำไร และบอนด์ยีลด์ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ จะอยู่ที่ 36.50 – 36.70 บาทต่อดอลลาร์
ด้านกองทุน SPDR Gold Trust
ขายทองคำสุทธิ 8.99 ตันจากสัปดาห์ก่อน ( อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม )
ประเด็นที่น่าจับตาสัปดาห์นี้
ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เดือน ก.ค.
ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจ เดือน มิ.ย. โดย conference Board และ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือน ก.ค.
นอกจากนี้ในวันพฤหัส ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.25% และจับตาการแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น