photo by Kony Xyzx | pexels.com
photo by Kony Xyzx | pexels.com

ภาพรวม ราคาทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ เป็นการหยุดสถิติการปรับตัวลดลงในรายสัปดาห์ 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ร่วม 75 ดอลลาร์

แต่กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำค่อนข้างกว้าง โดยราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,729 ดอลลาร์ ขณะที่ จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,691 ดอลลาร์ หากจะมองเฉพาะในวันศุกร์ ราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.5 ดอลลาร์

โดยราคาทองคำได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปี เมื่อเทียบกับเงินเยน พร้อมแตะระดับสูงสุดในรอบ 37 ปีเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ ทำให้ราคาทองคำพุ่งทดสอบระดับสูงสุดที้ 1,729 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวกลงในเวลาต่อมา จากถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของ เจ้าหน้าที่เฟด อาทิ นาย คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดที่กล่าวว่าสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย ครั้งใหญ่ในการประชุมประจำเดือน ก.ย. สอดคล้องกับ นาย เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด เซนต์หลุยส์ ได้เรียกร้องให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 75 bps เช่นกัน

ทำให้ FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. นี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 57% ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งปัจจัยดังกล่าว สกัดช่วงบวกราคาทองคำเอาไว้

ทางด้าน LHC มองว่า

ทิศทางราคา Gold Spot สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาเคลื่อนไหว Sideway โดยสามารถยืนเหนือกรอบ 1,700 ดอลลาร์ ได้สำเร็จ และมีโมเมนตั้มในเชิงบวกมากขึ้นในระยะสั้น ๆ ทำให้สัปดาห์นี้ น่าจะลุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อได้หากราคาไม่หลุด 1,700 ดอลลาร์

ทั้งนี้ รอติดตามประกาศตัวเลขเงินเฟ้อจากทางสหรัฐฯ โดยมีการคาดการณ์ว่าจะปรับลดลง

สำหรับโซนแนวรับ รับสำคัญ อยู่ที่โซน 1,700-1,690 ดอลลาร์ และ 1,680-1665 ดอลลาร์ ตามลำดับ โดยแนวรับ ณ ช่วงราคา 1,700-1,690 ดอลลาร์ ทำหน้าที่ได้ค่อนข้างแข็งแกร่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนอาจพิจารณาเข้าซื้อได้ ณ โซนดังกล่าว หากราคาปรับตัวลงมา

ส่วนโซนแนวต้านที่น่าสนใจอยู่ที่ระดับ 1,760-1,765 ดอลลาร์ และ 1,785-1,900 ดอลลาร์ ตามลำดับ

ทั้งนี้ ภาพรวมระยะสั้นถือว่าดูดีขึ้น หากทะลุผ่านแนว 1,730 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ มีโอกาสที่จะขยับขึ้นต่อ

ด้าน YLG มองว่า

ราคาพยายามทดสอบแนวต้านที่ 1,729-1,734 ดอลลาร์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ( กรอบด้านบนของ Sideway Up ) จึงมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา

อย่างไรก็ตาม หากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้น ที่ 1,703-1,697 ดอลลาร์ ประเมินว่า เป็นการอ่อนตัวลงระยะสั้น เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง และ ราคามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นทดสอบกรอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เปิดสถานะซื้อ 1,703-1,697 ดอลลาร์ ขายเพื่อทำกำไร 1,729-1,734 ดอลลาร์ และ ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 1,676 ดอลลาร์

มาดูราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (12 ก.ย.) ลดลง 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (11.00 น.) อยู่ที่ 29,600 ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 29,500 บาท ขณะที่ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 100 บาท

วันนี้ ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่สัปดาห์นี้สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ

ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ส.ค. ,ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค.

นอกจากนี้ สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก เดือน ก.ย., ยอดค้าปลีกเดือน ส.ค., ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เดือน ก.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย. ของ ม.มิชิแกน

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น