มาดูการเคลื่อนไหวของ ราคาทองคำ ในรอบวันที่ผ่านมาราคาได้แกว่งตัวในกรอบ 1,895 -1,909 ดอลลาร์ โดยราคาได้ฟื้นตัวกลับมาเล็กน้อย หลังจากเมื่อวานนี้ร่วงลงแตะ 1,891 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทาง sideway ออกด้านข้างสลับในแดนบวกและแดนลบ ตามการเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์ ซึ่งระหว่างวันได้ทำจุดสูงสุด 101.963 ขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ที่ 101.510 และบอนด์ยีลด์ ยังคงอยู่ในทิศทางขาลง โดยวันนี้แตะจุดต่ำสุดที่ 2.785%
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนซึมซับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในการประชุมเดือน พ.ค. ที่จะถึงนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย จากความกังวลเกี่ยวกับการสู้รบระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน รวมถึงการล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ ของทางการจีน
แต่ทองคำได้แรงหนุนจาก ข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเอเชียปี 2565จะขยายตัวเพียง 4.9% ลดลง 0.5% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค. โดยมองว่า เศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มเผชิญปัญหา Stagflation และเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังถูกกดดันจากผลพวงสงคราม ยูเครน-รัสเซีย รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เศรษฐกิจเอเชียเผชิญกับความไม่แน่นอน
ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในเอเชียจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.4% ในปี 2565 โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ใน เดือน ม.ค.
ไปดูมุมมองของทาง Ausiris มองว่า
เมื่อวานนี้ราคาทองร่วงหลุด 1,900 ดอลลาร์ ลงไปทดสอบแนวรับโซน 1,895-1,890 ดอลลาร์ โดยทำจุดต่ำสุดแถว 1,891 ดอลลาร์ แล้วมีแรงซื้อกลับขึ้นมาเล็กน้อย จนปิดตลาดที่ 1,897 ดอลลาร์
เมื่อดูจากกราฟรายวัน (Daily) ได้ปิดเป็นสัญญาณ Bearish แท่งสีแดงยาว แต่เปิดตลาดวันนี้ (26 เม.ย.) ราคาฟื้นตัวกลับขึ้นมาเหนือ 1,900 ดอลลาร์ ได้ แต่ยังเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าเส้น Downtrend คาดว่าเป็นเพียงการรีบาวน์ระยะสั้น
ขณะที่ RSI เข้าเขตขายมากเกินไป (Oversold) หลังจากนั้น มีโอกาสปรับตัวลงไปทำ Lower low เพิ่มอีก
ทั้งนี้ ได้ประเมินแนวต้านโซน 1,915 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 30,940 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 1932 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 31,160 ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,891 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 30,670 บาท และ 1,878 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 30,500 บาท
คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย. โดย Conference Board ตลาดคาดว่า จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 108.5 จาก 107.2 ในเดือน มี.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือน มี.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 774,000 ยูนิต จาก 772,000 ยูนิต
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น