ในช่วงนี้ จะมีข่าวการแสดงความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟด เกี่ยวกับเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุม FOMC ในวันที่ 3-4 พ.ค. นี้
โดยตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543 และเมื่อดูตัวเลข Fed Fund Rate Futures ล่าสุด 7% มองขึ้นดอกเบี้ยเดือน พ.ค. ที่ 0.25% และ 93% มองขึ้นรวดเดียว 0.5%
ล่าสุดทาง นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา
ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า เฟดไม่ควรเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไป เพราะจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
พร้อมระบุว่า มุมมองของตนเป็นไปในทิศทางเดียวกับกรรมการเฟดท่านอื่น ๆ และเชื่อว่า เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เฟดควรจะปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างรอบคอบระมัดระวัง
โดยอัตราดอกเบี้ยน่าจะอยู่ในระดับ อยู่ในช่วง 2% – 2.5% หรือ ต่ำสุดไม่เกิน 1.75% ซึ่งจะไม่มีผลกระทบทั้งในด้านลบและด้านบวกต่อเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามปัจจัยพื้นฐาน
ขณะที่ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก กล่าวว่า
เฟดควรปรับเพิ่มกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.25% – 2.50% ภายในปีนี้ จากนั้นจึงพิจารณาถึงผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ แต่หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ก็มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ทั้งนี้ นายอีแวนส์ฯ มองว่าดอกเบี้ยควรจะต่ำกว่ากรอบที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ที่ระดับ 2.50% – 2.75% พร้อมระบุว่า เฟดยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.50% ในเวลานี้
ด้าน Shining Gold ระบุว่า
Trader ต่างประเทศคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps. ในการประชุมเดือน พค. และ มิ.ย. เช่นเดียวกับ ประธานเฟดสาขาซานฟานซิโก และ ชิคาโก ที่ให้น้ำหนักปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps. ในเดือนหน้ามากขึ้น เพื่อเร่งให้ rate ขยับสู่เป้าหมาย 2.5% ภายในสิ้นปีนี้
ถือเป็นการให้ความเห็นที่อ่อนโยนกว่า นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนหลุยส์ อย่างมาก ส่งผลให้ราคาทองคำสามารถรีบาวน์กลับขึ้นมาอยู่เป้าหมายแรก บริเวณ 1,955-58 ดอลลาร์ ได้สำเร็จ
นอกจากนั้น ตลาดยังคงจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟด ในคืนนี้ว่าจะมีท่าทีเปลี่ยนจากเดิมหรือไม่อย่างไร
ท่ามกลางการโจมตียูเครนที่หนักขึ้น การคว่ำบาตรยังคงดำเนินต่อไป ล่าสุดมีรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเยอรมนี ปฏิเสธข้อเรียกร้องของปูตินที่ขอให้บริษัทต่าง ๆ จ่ายค่าก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย โดยตั้งบัญชีจ่ายเป็นสกุลเงินรูเบิล รวมถึง เยอรมนียังวางแผนที่จะหยุดการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ และก๊าซธรรมชาติจะตามมาอีกในอนาคต
ถือเป็นความพยายามตัดเส้นทางการเงินของรัสเซีย แม้ว่าจะเฉือนเนื้อตัวเองมากกว่าประเทศอื่น ๆ ก็ตาม สิ่งนี้ยังถือเป็นแรงสนับสนุนทองด้านบวก เพื่อให้เกิดการรีบาวน์ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ หากพิจารณาปัจจัยทางเทคนิค เมื่อวานนี้ราคาทองทำฐานย่อย 1,938 ดอลลาร์ เพื่อรีบาวน์ไป 1,955-1,958 ดอลลาร์ ทำให้แท่งเทียนรายวันกลับมาปิดเป็น pin bar นัยยะคือ หากราคาทองคำ Break ที่ระดับ 1,958 ดอลลาร์ ในวันนี้ (21 เม.ย.) ได้ การลุ้นแนวต้านอีกระดับบริเวณ 1,969-1,972 ดอลลาร์ ก็อาจไม่ใช่เรื่องยาก