คำแนะนำ เปิดสถานะซื้อ $1,700-1,697
จุดทำกำไร ขายทำกำไร $1,724-1,746
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,676

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงกดดันหลายประการ ได้แก่
(1.) สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1.0267 ดอลลาร์ ขานรับรายงานของ Reuters ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำลังพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
(2.) เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น หลังอัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักรอยู่ที่ระดับ 3.8% ในช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนพ.ค. ในขณะที่จำนวนคนทำงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2021 สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานซึ่งจะเปิดทางให้ธนาคารกลางอังกฤษ(BoE)เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดด้วยการอ่อนค่าลง 0.68% จนเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้ทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,718.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดีราคาทองคำลดช่วงบวกลงจากแรงขายทำกำไร ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งเหนือ 3% จากแรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังนักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง(Risk on) สะท้อนจากดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 754.44 จุด หรือ +2.43%, ดัชนี S&P500 ปิด +2.76% และดัชนี Nasdaq ปิด +3.11%
ปัจจัยดังกล่าวกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม
วันนี้ ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ
กลยุทธ์การลงทุน
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ ขณะที่แนวรับระยะสั้นนั้นจะอยู่บริเวณ 1,700-1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,697 ระดับต่ำสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา) หากยืนได้ราคาพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,724-1,746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,746 ระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา) แต่หากยืนเหนือแนวรับแรกไม่ได้ ทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวลงต่อทดสอบแนวรับถัดไป 1,680-1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,676 ระดับต่ำสุดของปี2021)
ขอบคุณข้อมูล YLG