คำแนะนำ เปิดสถานะซื้อ $1,697-1,676
จุดทำกำไร ขายทำกำไร $1,724-1,746
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,676
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยรวมราคาทองคำในระหว่างวันได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังจากนักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 100 bps หรือ 1.00% ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 26-27 ก.ค. ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลง 0.56% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันจันทร์ จนเป็นปัจจัยเบื้องหลังสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,723.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวกลงในเวลาต่อมา โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ออกมาดีเกินคาดและการคาดการณ์ว่าเฟดอาจไม่ขึ้นดอกเบี้ย 100 bps หรือ 1.00% ในการประชุมเดือนนี้ ทำให้นักลงทุนบางส่วนกลับมาเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง
ทั้งนี้แรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.172% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.987% จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย
ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลงอีก -5.22 ตัน
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน รวมไปถึงถ้อยแถลงของนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด
วิเคราะห์การลงทุนทองคำ : ราคาทองคำเกิดแรงซื้อดีดตัวขึ้นหลังจากที่อ่อนตัวลงมาใกล้ 1,698-1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของสัปดาห์ก่อนหน้า) โดยราคาพยายามเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบเพื่อสร้างฐานราคา เบื้องต้นมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,724 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านไปได้ ประเมินว่าจะเกิดแรงซื้อดันมาเข้าใกล้แนวต้านสำคัญโซน 1,746 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง(ระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อนหน้า)
Technical Analysis | Gold | Silver | Oil |
MA 10 Days | 1,724.29 | 18.93 | 107.71 |
MA 50 Days | 1,812.24 | 20.92 | 104.44 |
MA 200 Days | 1,844.88 | 23.07 | 98.95 |
RSI 9 Days | 20.62 | 28.40 | 61.53 |
RSI 14 Days | 25.32 | 29.38 | 63.51 |
ขอบคุณข้อมูล : YLG