สัปดาห์ก่อนทองคำปรับตัวลดลงในรอบ 11 เดือน
สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways
- ราคาทอง Spot สัปดาห์ที่ผ่านปรับตัวลดลงในระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น จากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนขายทองคำ และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ทั้งนี้ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี อย่างไรก็ตามในช่วงปลายสัปดาห์ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากสกุลเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลง เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 8.41 ตันจากสัปดาห์ก่อน
- สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 26-27 ก.ค. ทั้งนี้ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% มาสู่ระดับ 2.25%-2.50% และการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ นอกจากนี้สหรัฐจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 2 ประมาณการครั้งที่ 1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. โดย Conference Board ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนมิ.ย.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,710 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,700 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,740 ดอลลาร์ และ 1,750 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,726.40 | 1,710/1,700 | 1,740/1,750 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
29,950 | 29,800/29,700 | 30,050/30,200 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
30,080 | 29,840/29,770 | 30,190/30,300 |
สามารถเปิดสถานะขายเมื่อราคาปรับขึ้นมาบริเวณ 1,740 ดอลลาร์ (GF 30,190 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,750 ดอลลาร์ (GF 30,300 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,735.10 | 1,712/1,702 | 1,742/1,752 |
สามารถเปิดสถานะขายเมื่อราคา GOU22 ปรับขึ้นมาบริเวณที่ 1,742 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,752ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าสูงสุดบริเวณ 36.84 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าในระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปี อย่างไรก็ตามช่วงปลายสัปดาห์ค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่า 2 วันติดต่อกัน ทั้งนี้คาดว่าระยะสั้นค่าเงินบาทแข็งค่า เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ชะลอการแข็งค่า สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.65 มีแนวรับที่ 36 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 37 บาท/ดอลลาร์
News
รัสเซียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 3.4% ในครึ่งปีแรก แต่การผลิตก๊าซลดลง 5%
นายนิโคไล ชุลกินอฟ รัฐมนตรีพลังงานของรัสเซียเปิดเผยในระหว่างการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของรัสเซียในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบรายปี แต่การผลิตก๊าซปรับตัวลง 5% ส่วนการผลิตถ่านหินในช่วงครึ่งปีแรกยังคงอยู่ในระดับเดียวกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่การผลิตน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบรายปี นายชุลกินอฟยังระบุว่า ผลการดำเนินงานในภาคพลังงานของรัสเซียช่วงครึ่งแรกปี 2565 นั้น ยังสามารถปรับตัวรับสภาวะทางเศรษฐกิจที่ท้าทายได้ โดยเพิ่มเติมว่า ตลาดพลังงานในประเทศมีความเสถียรและไม่มีปัญหาเรื่องอุปทานด้านพลังงานแต่อย่างใด
ECB เผยมาตรการช่วยเหลือประเทศหนี้สินสูงในยูโรโซน
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยกลไกใหม่ที่เรียกว่า Transmission Protection Instrument (TPI) เพื่อช่วยเหลือประเทศในยูโรโซนที่มีปัญหาหนี้จำนวนมาก ทั้งนี้ ภายใต้กลไก TPI จะทำให้ ECB สามารถเข้าซื้อพันธบัตรจากประเทศที่มีหนี้สินจำนวนมาก เช่น อิตาลี เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก ประเทศที่เข้าเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือจาก TPI จะต้องเป็นประเทศที่ปฏิบัติตามกรอบงบประมาณของสหภาพยุโรป (EU), ไม่ขาดดุลงบประมาณมากกว่าที่กำหนด, ไม่เกิดภาวะไร้สมดุลในเศรษฐกิจกิจมหภาคอย่างรุนแรง และมีหนี้ที่มีความยั่งยืนตามการพิจารณาของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC), กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) นอกจากนี้ ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว รุนแรงกว่าที่ ECB ส่งสัญญาณในเดือนมิ.ย.ว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพียง 0.25% ในเดือนก.ค. ทั้งนี้ ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.50% สู่ระดับ 0% จากเดิมที่ระดับ -0.50% โดยอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวได้ปรับตัวต่ำกว่า 0% นานถึง 9 ปี นอกจากนี้ ECB ยังได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ 0.50% สู่ระดับ 0.50% จากเดิมที่ระดับ 0% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.50% สู่ระดับ 0.75% จากเดิมที่ระดับ 0.25%
เศรษฐกิจฝรั่งเศสชะลอตัวรุนแรงปีหน้า คาดกระทบการลดยอดขาดดุลงบประมาณ
กระทรวงการคลังฝรั่งเศสเปิดเผยว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจฝรั่งเศสจะชะลอตัวลงอย่างมากในปี 2566 เนื่องจากเผชิญกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณภาครัฐก่อนจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากนั้น กระทรวงการคลังฝรั่งเศสได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ในระยะยาว โดยระบุว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจฝรั่งเศสจะชะลอตัวลงจาก 2.5% ในปีนี้สู่ระดับ 1.4% ในปีหน้า นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า “ความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์นั้นสูงมากทั้งในด้านพลังงานและการค้า” โดยระบุถึงความเสี่ยงที่รัสเซียจะยุติการส่งก๊าซ, การล็อกดาวน์ของจีน และเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลง นายเลอ แมร์กล่าวว่า การขยายตัวจะค่อย ๆ กระเตื้องขึ้นสู่ระดับ 1.8% ในปี 2570 เมื่อเศรษฐกิจได้ประโยชน์จากแผนปฏิรูปต่าง ๆ ตั้งแต่ระบบบำนาญจนถึงการประกันการว่างงาน กระทรวงการคลังฝรั่งเศสรายงานว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในปีหน้า จะทำให้การขาดดุลงบประมาณภาครัฐไม่เปลี่ยนแปลงจากปีนี้ที่ระดับ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และจะค่อย ๆ ลดลงหลังจากนั้นจนอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของสหภาพยุโรป (EU) ที่ระดับต่ำกว่า 3% ภายในปี 2570
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.