- Advertisement -

คำแนะนำ       เปิดสถานะซื้อ 1,872-1,854

จุดทำกำไร     ขายเพื่อทำกำไร $1,919-1,911

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,854

แนวรับ : 1,872 1,854 1,837  แนวต้าน : 1,919 1,936 1,955

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำในวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยระหว่างวันราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,919.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 102.818 เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรหลังดัชนีดอลลาร์เพิ่งแตะระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ธ.ค.2002 ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประกอบกับเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.0543 ดอลลาร์

หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 7.5% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ยูโรสแตทเริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป(ECB)อาจต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวกในเวลาต่อมา โดยกลับมาได้รับแรงกดดันจากแรงขายกำไร หลังจากทองคำเข้าสู่สภาวะซื้อมากเกินไป(Overbought)

นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไปของสหรัฐ ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ที่พุ่งขึ้น 6.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปีซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.1982 ส่วนการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าสองในสามของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.1% ในมี.ค. สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Reuters คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมี.ค.

ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 1,895.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่งผลให้ราคาทองคำปิดตลาดในเดือนเม.ย.ด้วยการปรับตัวลดลง -2.13% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในรายเดือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -1.16 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

- Advertisement -

• (+) “เพโลซี” เดินทางถึงกรุงเคียฟ ย้ำจุดยืนสนับสนุนยูเครน นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนที่กรุงเคียฟในวันนี้ เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนของสหรัฐ แถลงการณ์ระบุว่า “คณะผู้แทนของเราเดินทางถึงกรุงเคียฟเพื่อส่งข้อความอย่างชัดเจนถึงทั้งโลกว่า อเมริกายืนอยู่ข้างยูเครน”

• (+) ปธน.ยูเครนเผยหารือนายกฯอังกฤษเรื่องความช่วยเหลือด้านการป้องกันประเทศ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (30 เม.ย.) ว่า ได้หารือเรื่องความช่วยเหลือด้านการป้องกันยูเครนกับนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ปธน.เซเลนสกีทวีตข้อความว่า ทั้ง 2 ฝ่ายหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในสนามรบและเมืองมาริอูโพลที่ถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อมทางตะวันออกของยูเครน พร้อมเสริมว่ามีการพูดคุยเรื่องความพยายามทางการทูตที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุสันติภาพอีกด้วย

• (+) “คิม จอง อึน” ประกาศกร้าวเกาหลีเหนือพร้อมใช้นิวเคลียร์ หากถูกคุกคาม สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานในวันนี้ (30 เม.ย.) ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ระบุย้ำถึงความตั้งใจของเขาที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากประเทศถูกคุกคามโดยกองกำลังของศัตรู ขณะที่ชมเชยเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงซึ่งดูแลการจัดพิธีสวนสนามของกองทัพที่กรุงเปียงยางเมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายคิมได้แสดงถึงความตั้งใจของเขาที่จะยังคงพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป

• (+) รัสเซียออกโรงย้ำเจรจาสันติภาพรวมประเด็นยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเปิดเผยในวันนี้ (30 เม.ย.) ว่า การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยการเจรจาดังกล่าวเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ก็ยังคงดำเนินไปในแต่ละวัน “วาระของการเจรจายังรวมถึงประเด็นอื่น ๆ อาทิ การรับรองความเป็นจริงทางภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร รวมถึงสถานะของภาษารัสเซีย” นายลาฟรอฟกล่าว

• (+) เจรจาสันติภาพยูเครน-รัสเซียส่อแววล่ม ขณะการสู้รบยังดุเดือดทางตะวันออก ยูเครนเตือนเมื่อวันศุกร์ (29 เม.ย.) ว่า การเจรจาสันติภาพกับรัสเซียส่อเค้าล้มเหลว และระบุว่า รัสเซียกำลังโจมตีพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ขณะที่สหรัฐยืนยันที่จะอนุมัติมาตรการช่วยเหลือด้านอาวุธจำนวนมากให้กับยูเครนอย่างรวดเร็ว

• (+)ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งขึ้นในเดือนเม.ย. ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้น 9.8% สู่ระดับ 65.2 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 59.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554

• (+) ดอลลาร์อ่อนค่าจากแรงขายทำกำไร ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (29 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.64% แตะที่ 102.9580 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 129.45 เยน จากระดับ 130.88 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9712 ฟรังก์ จากระดับ 0.9719 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2831 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2806 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0578 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0509 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าแตะระดับ 1.2597 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2462 ดอลลาร์

• (+) ดาวโจนส์ปิดดิ่ง 939.18 จุด ผิดหวังผลประกอบการ-วิตกเงินเฟ้อ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดิ่งลงกว่า 900 จุดในวันศุกร์ (29 เม.ย.) โดยเป็นการร่วงลงรายวันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง และกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548 ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 32,977.21 จุด ร่วงลง 939.18 จุด หรือ -2.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,131.93 จุด ร่วงลง 155.57 จุด หรือ -3.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,334.64 จุด ร่วงลง 536.89 จุด หรือ -4.17%

• (-) สหรัฐเผยดัชนี PCE พุ่ง 6.6% ในเดือนมี.ค. สูงสุดในรอบ 40 ปี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2525 เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนดัชนี PCE ทั่วไป ดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.5% ในเดือนก.พ. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -