ทองปรับตัวขึ้นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนกว่าๆ
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนมี.ค.
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง
- ราคาทองคำ Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นแรงเกือบเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 2,000 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่าเป็นระดับสูงสุด ในรอบ 1 เดือนกว่าๆ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่อาจจะยืดเยื้อ โดยการเจรจาสันติภาพยังไม่มีแนวโน้มความคืบหน้า ขณะที่ผู้นำรัสเซียยืนยันจะทำการต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ส่งผลให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 0.87 ตันจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนมี.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 1.83 ล้านยูนิต และ 1.74 ล้านยูนิตตามลำดับ
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,970 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,960 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ และ 2,010 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,978.50 | 1,970/1,960 | 2,000/2,010 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
31,700 | 31,400/31,200 | 31,850/32,000 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
31,740 | 31,620/31,480 | 31,990/32,100 |
การเข้าซื้อราคาทอง Spot รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา spot ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,960 ดอลลาร์ (GF 31,480 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,950 ดอลลาร์ (GF 31,250 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,982.60 | 1,972/1,962 | 2,002/2,012 |
การเข้าซื้อราคา GOM22 รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา GOM22 ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,962 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,952 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทชะลอการอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่ามากสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ซึ่งนักลงทุนติดตามการต่อสู้ในยูเครนที่ยืดเยื้อ ทั้งนี้ระยะสั้นค่าเงินบาทคาดว่ามีแนวโน้มอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์
News
เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ ก่อนสหรัฐ-เกาหลีใต้ซ้อมรบร่วมกัน
สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ร่วมสังเกตการณ์การทดสอบยิงอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธี (Tactical Guided Weapon) รุ่นใหม่ รายงานระบุว่า การทดสอบอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จด้วยดี แต่ไม่ได้ระบุว่าการทดสอบดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด
แต่โดยปกติแล้วจะมีการรายงานการปฏิบัติภารกิจของผู้นำเกาหลีเหนือในวันรุ่งขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันจันทร์นี้ ซึ่งเป็นวันแรกที่สหรัฐและเกาหลีใต้จะซ้อมรบครั้งใหญ่ร่วมกัน
โกลด์แมนแซคส์คาดมีโอกาส 35% ที่ศก.สหรัฐจะถดถอยภายใน 2 ปีข้างหน้า
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า มีโอกาสราว 35% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอยในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยแสดงความเห็นว่า สถิติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ มักจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย
นายแจน ฮัทซีอุส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า ความท้าทายของเฟดคือการลดช่องว่างระหว่างตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน (Job Openings) และจำนวนคนทำงาน และชะลอการเติบโตของอัตราค่าจ้างให้สอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ด้วยการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินที่รุนแรงมากพอที่จะทำให้ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานปรับตัวลงโดยไม่ทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานถือเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจอย่างมาก โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ยังกล่าวด้วยว่า ความพยายามของเฟดที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือ Soft Landing นั้น อาจเป็นเรื่องยาก เพราะจากสถิติที่ผ่านมานั้น การลดลงของช่องว่างระหว่างตัวเลขการเปิดรับสมัครและจำนวนคนทำงานจะเกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยเท่านั้น
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นสถานการณ์ที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากเมื่ออุปทานแรงงานและราคาสินค้าคงทน (Durable Goods) กลับคืนสู่ภาวะปกติในยุคหลังโควิด-19 เฟดจะมีท่าทีผ่อนคลายลง นอกจากนี้ ประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม G10 ก็เคยทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้สำเร็จมาแล้วเช่นกัน โดยกลุ่ม G10 ประกอบไปด้วยเบลเยียม, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ
EU มอบเงินช่วยเหลือให้ยูเครน-มอลโดวาอีก 50 ล้านยูโร หวังบรรเทาวิกฤตมนุษยธรรม
สหภาพยุโรป (EU) เตรียมจัดสรรเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 50 ล้านยูโร (54.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แถลงการณ์จาก EU ที่ออกมา ระบุว่า เงินจำนวน 45 ล้านยูโร (ราว 48.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะมอบให้กับโครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครน
ส่วนอีก 5 ล้านยูโร (5.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะมอบให้กับมอลโดวา ประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนที่อ้าแขนรับผู้ลี้ภัยสงครามหลายแสนราย นับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา งบประมาณช่วยเหลือรอบใหม่นี้จะช่วยบรรเทาแรงกดดันจากปัญหาด้านมนุษยธรรมที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ผ่านการมอบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน การเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่ดี ที่อยู่อาศัย การช่วยเหลือทางการเงิน และการช่วยเหลือผู้ที่เป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา EU ได้สมทบทุนช่วยเหลือเหตุขัดแย้งในยูเครนรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 143 ล้านยูโร (154.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.