ทองปรับขึ้นในระดับสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ จากความกังวลเงินเฟ้อ
สัปดาห์นี้ติดตามการแถลงของประธานเฟด
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้น
- ราคาทองคำ Spot สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นในระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี รวมถึงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ส่งสัญญาณยืดเยื้อ โดยการเจรจาสันติภาพยังคงไม่มีความคืบหน้า ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 9 ตันจากสัปดาห์ก่อน
- สัปดาห์นี้สหรัฐเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนมี.ค. ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนเม.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนมี.ค. โดย conference Board และติดตามการแถลงของประธานเฟด และการแถลงของประธาน ECB
- แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,970 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,960 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,990 ดอลลาร์ และ 2,000 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,974.40 | 1,970/1,960 | 1,990/2,000 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
31,450 | 31,300/31,100 | 31,750/31,900 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
31,410 | 31,300/31,130 | 31,790/31,930 |
การเข้าซื้อราคาทอง Spot รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา spot ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,960 ดอลลาร์ (GF 31,130 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,950 ดอลลาร์ (GF 31,000 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,974.20 | 1,972/1,962 | 1,992/2,002 |
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าเล็กน้อย ซึ่งค่าเงินบาทแข็งค่ามากสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ธุรกรรมยังคงเบาบาง อย่างไรก็ตามระยะสั้นค่าเงินบาทคาดว่ามีแนวโน้มอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 33.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์
News
เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ ก่อนสหรัฐ-เกาหลีใต้ซ้อมรบร่วมกัน
สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ร่วมสังเกตการณ์การทดสอบยิงอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธี (Tactical Guided Weapon) รุ่นใหม่ รายงานระบุว่า การทดสอบอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จด้วยดี แต่ไม่ได้ระบุว่าการทดสอบดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด แต่โดยปกติแล้วจะมีการรายงานการปฏิบัติภารกิจของผู้นำเกาหลีเหนือในวันรุ่งขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันจันทร์นี้ ซึ่งเป็นวันแรกที่สหรัฐและเกาหลีใต้จะซ้อมรบครั้งใหญ่ร่วมกัน
มูดี้ส์ออกโรงเตือนรัสเซียเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้
มูดี้ส์ เตือนว่ารัสเซียอาจผิดนัดชำระหนี้เพราะพยายามชำระหนี้พันธบัตรระหว่างประเทศเป็นสกุลเงินรูเบิล ขณะที่การชำระเงินได้ถูกกำหนดไว้ว่าต้องเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งจะถือเป็นผลพวงที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน หากรัสเซียถูกประกาศว่าผิดนัดชำระหนี้ จะถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 100 ปี นับตั้งแต่การปฏิวัติรัสเซียเมื่อปี พ.ศ. 2460
ทั้งนี้ สหรัฐได้ทำการสกัดรัฐบาลรัสเซียจากการใช้เงินดอลลาร์ที่สำรองเอาไว้ในสถาบันการเงินสหรัฐ ในการชำระหนี้พันธบัตรสกุลดอลลาร์มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ต่อมาในวันที่ 11 เม.ย. นายแอนตัน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียได้พยายามที่จะชำระเงินแก่บรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศ แต่บรรดาชาติตะวันตกได้ทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้รัสเซียต้องผิดนัดชำระหนี้ และรัสเซียจะดำเนินการทางกฎหมายหากชาติตะวันตกพยายามกดดันให้รัสเซียต้องผิดนัดชำระหนี้
นายซิลูอานอฟเปิดเผยว่า หนี้ต่างประเทศของรัสเซียมีสัดส่วนราว 20% ของหนี้สาธารณะทั้งหมดของประเทศซึ่งอยู่ที่ประมาณ 21 ล้านล้านรูเบิล (2.617 แสนล้านดอลลาร์) โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นหนี้ต่างประเทศประมาณ 4.5-4.7 ล้านล้านรูเบิล
IMF เตือนแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอ่อนแอจากผลกระทบสงครามยูเครน-เงินเฟ้อสูง
นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวเตือนว่า การทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ในโลกอ่อนแอลง และภาวะเงินเฟ้อที่ระดับสูงเป็นอันตรายที่ชัดเจนในขณะนี้
นางจอร์เจียวากล่าวว่า ผลกระทบจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนทำให้มีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของ 143 ประเทศลง แม้เศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่นั้นจะยังคงมีการขยายตัว สงครามส่งผลกระทบต่อการค้าโลกในด้านพลังงานและธัญพืช และมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ภาวะขาดแคลนอาหารในแอฟริกาและตะวันออกกลาง นางจอร์เจียวาแสดงความเห็นดังกล่าวในการแสดงสุนทรพจน์ก่อนการประชุมฤดูใบไม้ผลิของ IMF และธนาคารโลกที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า
การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งเกินคาดจากภาวะถดถอยที่เกิดจากโรคระบาดในปี 2563 นั้นได้สร้างความประหลาดให้กับภาคธุรกิจ ส่งผลให้โรงงาน, ท่าเรือ และสถานีขนส่งสินค้าไม่สามารถรองรับอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของลูกค้า และทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น นางจอร์เจียวากล่าวว่า “อัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูง ซึ่งกดดันให้ธนาคารกลางหลายแห่งของโลกต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงนั้น นับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก”
นอกจากนี้ นางจอร์เจียวายังเตือนถึงการแบ่งแยกเศรษฐกิจโลกออกเป็นกลุ่มตามภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ชาติตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย และจีนได้แสดงการสนับสนุนระบอบการปกครองแบบเผด็จการของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.