- Advertisement -

ตลาดทองคำไม่กลัวท่าทีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกต่อไป หลังนักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขสำคัญที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ได้แตะระดับสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษแล้ว

ราคาทองคำได้เห็นโมเมนตัมการปรับตัวเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ช่วงต้นของการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังอัตราผลตอบแทนของพันธบัตร 2 ปี เพิ่มขึ้นมากกว่า 50 จุดพื้นฐาน เหนือผลตอบแทนของพันธบัตร 10 ปี

นี่เป็นการผกผันของเส้นอัตราผลตอบแทนที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เข้มข้น

Ole Hansen head of commodity strategy ของ Saxo Bank กล่าวว่า

- Advertisement -

ภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย อยู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ซึ่งจะสนับสนุนราคาทองคำต่อไป

แม้ว่าตลาดจะยังคงคาดหวังว่า เฟดเจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังจนถึงปี 2566 แต่ตวามคาดหวังเหล่านั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เมื่อภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้น

Ole Hansen มองว่า นักลงทุนจะตระหนักว่า เฟดจะไม่สามารถดึงอัตราเงินเฟ้อกลับคืนสู่เป้าหมายที่ 2% และ คาดว่าจะเห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะที่ อัตราเงินเฟ้ออยู่ระหว่าง 4% ถึง 5% ซึ่งสภาพแวดล้อมนี้ จะเป็นขาขึ้นสำหรับ ทองคำ

ทั้งนี้ แนวโน้มขาขึ้นได้เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่สภาทองคำโลกระบุว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 28%

ซึ่งนอกเหนือจากความต้องการในส่วนค้าปลีกที่แข็งแกร่งแล้ว รายงานยังระบุด้วยว่า ธนาคารกลางได้ซื้อทองคำเกือบ 400 ตัน ระหว่างเดือน ก.ค. ถึง ก.ย. ซึ่งเป็นการซื้อในไตรมาสเดียวที่มากสุดเป็นประวัติการณ์

- Advertisement -

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น อาจกระตุ้นให้เกิดความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในวันศุกร์ แต่นักวิเคราะห์ยังตั้งข้อสังเกตว่า ยังมีงานบางอย่างที่ต้องทำ โดย Ole Hansen กล่าวว่า

ทองคำ กำลังเคลื่อนตัวออกจากจุดต่ำสุด และ ตอนนี้ นักลงทุนจำเป็นต้องดูว่า ราคาจะสูงแค่ไหน ต้องการเห็นราคาทองคำขึ้นไปยืนเหนือแนวรับ 1,675 ดอลลาร์ อย่างแข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 1,730 ดอลลาร์

โดย Ole Hansen มองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือ 1,735 ดอลลาร์ ได้ จะทำให้ทองคำกลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น

ที่มา : Kitco.com

- Advertisement -