คืนนี้ ให้จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐฯ
ซึ่งจะเป็นอีกตัวเลขสำคัญก่อนที่จะชี้ทิศทางในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุม FOMC ในวันที่ 20-21 ก.ย.
ทั้งนี้ จากการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือน ส.ค. จะอยู่ที่ระดับ 8.1% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวจากระดับ 8.5% ในเดือน ก.ค. หากเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปเดือน ส.ค. ปรับตัวลง 0.1% โดยมีสาเหตุจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน
หากดัชนี CPI ทั่วไปเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ปรับตัวลง จะเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2563
อย่างไรก็ดี คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 6.1% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าระดับ 5.9% ในเดือน ก.ค.
ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่าหากตัวเลข CPI เดือน ส.ค.ออกมาตามที่คคาดการณ์ไว้ จะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ ข้อมูลของ Shining Gold Bullion ระบุว่า
Bloomberg คาดว่า ตัวเลข CPI จะลดลงมาแตะระดับ 8.1% แต่นักเศรษฐศาสตร์ Wall Street คาดการณ์ว่า CPI จะลดลง 0.1% ต่อเดือน จากราคาน้ำมันที่ลดลง นั่นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อ CPI ลดลงเหลือ 8% จาก 8.5%
หากมาดู CME Fedwatch ยังให้น้ำหนักว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps.สูงมากถึง 91% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 10% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
โดย Shining Gold Bullion มองว่า หลังตัวเลข CPI ออกมา ก็ขึ้นอยู่กับการตีความของนักลงทุนแล้วว่า หากตัวเลข CPI ลดลงจริง แต่การคาดการณ์ยังให้น้ำหนัก 75 bps. เช่นเดิม ก็แสดงว่า ความคาดหวังจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ คงยังห่างไกลอีกมาก ก็จะกดดันทองลงได้อีก step
แต่หากตีความว่า เฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยในระดับสูงเพื่อคุมเงินเฟ้อให้อยู่ท่ามกลางสัญญาณที่ดีขึ้น จากการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยระดับดังกล่าว การย่อตัวคงไม่เกิดขึ้น และอาจจะมีแรงซื้อเข้ามาแทนเป็นระยะก็เป็นได้
ขณะที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยผลสำรวจตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐฯ สำหรับระยะเวลา 1 ปี และ 3 ปี ข้างหน้า พบว่า ได้ลดลงอย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ความสำเร็จของเฟดในการสกัดการพุ่งขึ้นของคาดการณ์เงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่า ในช่วง 1 ปีข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 5.75% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 จากระดับ 6.2% ที่มีการสำรวจในเดือน ก.ค.
การร่วงลงของคาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 1 ปีข้างหน้า ได้รับแรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคลดคาดการณ์ราคาน้ำมันและอาหาร
ส่วนตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ ระยะ 3 ปีข้างหน้า ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2563 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 3.2% ในเดือน ก.ค.