ทิศทางราคาทองคำครึ่งปีหลัง 2566 จะไปทางไหน?

พูดคุยกับ คุณวิโรสินี สดากร AISA ผจก.ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน

คาดไตรมาสสาม gold spot พักฐาน แต่ไม่น่าหลุด $1,800 หาก FED ขึ้นดอกเบี้ยแค่ 2 ครั้ง ด้านทองไทยยังสดใส ระยะยาวอาจแตะ 34,000 บาท

ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

.

รับชมคลิป ทิศทางราคาทองคำครึ่งปีหลัง 2566 จะไปทางไหน

คุณวิโรสินี สดากร ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน กล่าวถึงการลงทุนทองคำในช่วงครึ่งปีหลังว่า

ถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงครึ่งปีแรก ผลประกอบการทั้ง gold spot และราคาทองคำในประเทศถือว่าทำได้ดี แต่ในช่วงไตรมาส 3 คาดว่าราคาทองคำน่าจะลงพักฐาน เพราะว่าเฟดยังต้องการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง โดยอาจจะเป็นในเดือน ก.ค. และอาจจะเว้นไปอีก 1 เดือน เพื่อรอดูตัวเลข ศก. อีกครั้ง แต่ก็ยังอยู่ในไตรมาส 3

เพราะฉะนั้น การที่ FED ยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาทองคำก็ยังเคลื่อนไหวในลักษณการ sideway down ลงไปสร้างฐานใหม่ เพื่อรอสัญญาณการดีดตัวกลับขึ้นมา โดยราคาอาจจะลงไปได้ถึงระดับ 1,865 ดอลลาร์ และ 1,823 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์

“หาก FED ขึ้นดอกเบี้ยแค่ 2 ครั้ง มองว่าราคาไม่น่าหลุดระดับ 1,800 ดอลลาร์ แต่หากเฟดต้องการจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่านั้น เพราะมองว่าเงินเฟ้อยังไม่ลงมาที่ 2% ที่ต้องการ เชื่อว่าแนวรับระดับ 1,800 ดอลลาร์ จะเอาไม่อยู่ เพราะอย่าลืมว่าตอนนี้เงินเฟ้อยังอยู่ที่ 4% และหากเกิดเหตุการณ์ที่จะทำให้เงินเฟ้อเด้งกลับ FED ก็อาจจะปรับเปลี่ยนนโยบายได้ หรืออาจจะขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว 2 รอบ แต่เงินเฟ้อยังลงไปไม่ถึง 2% ตามเป้า ก็อาจจะปรับเปลี่ยนนโยบายได้เช่นกัน ซึ่งเราต้องมาดูตัวเลขเงินเฟ้อท้ายที่สุดจะจบลงตรงไหน” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน ชายน์นิ่งโกลด์ฯ กล่าว

ขณะที่ การคาดการณ์ราคาทองคำในช่วงสิ้นปีนี้ ถ้าดูจากภาพของเทคนิค จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ขึ้นมาทดสอบแถว 2,075 ดอลลาร์ ถึง 3 รอบ โดยหลักทางเทคนิคแล้ว หากไม่สามารถเบรกขึ้นไปได้ ก็จะเข้าสู่รอบพักฐาน โดยมองว่าอาจจะเป็นช่วงไตรมาส 3 แต่เชื่อว่าที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ ยังเป็นฐานแนวรับที่สำคัญ และเหนียวแน่น

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน ถ้าจะเข้าซื้ออาจจะต้องเริ่มจาก 1,865 ดอลลาร์ เข้าทยอยเก็บ หากหลุดลงมา ก็มารอเก็บอีกรอบแถว 1,830 ดอลลาร์ และหากยังร่วงต่อ ก็คาดว่าจะมาถึง 1,800 ดอลลาร์ และหากว่า FED ระบุว่าจะจบการขึ้นดอกเบี้ย ราคาทองคำก็จะเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าปีนี้ ไม่น่าจะขึ้นไปเกิน 2,000 ดอลลาร์ ก่อนจะไปปรับขึ้นแรงในช่วงต้นปีหน้าอีกรอบ

อย่างไรก็ดี มองว่าระยะยาวราคาทองคำยังดูดี เพราะว่าในท้ายที่สุด FED ก็ต้องคงดอกเบี้ย และลดดอกเบี้ย ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา FED ได้ขึ้นดอกเบี้ยอย่างร้อนแรง ก่อนจะค่อย ๆ ชะลอตัวลงในปีนี้ และหยุดขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ทำให้เห็นว่าโอกาสน้อยที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเกิน 0.25%

ขั้นตอนถัดไป เฟดอาจจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยไปอีกระยะ จากนั้นจะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ย เพื่อเข้าสู่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ ต่อด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้วงจรของราคาทองคำจะอยู่ในช่วงของขาลงใกล้จะสุดแล้ว จากนั้นก็จะเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น และการที่ราคาทองคำยังยืนได้ในระดับสูง ณ ปัจจุบัน ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี

และยิ่งเป็นทองคำไทย ถือว่ามีแรงหนุนที่ดี เพราะหลังจากนี้จะได้เห็นรัฐบาลชุดใหม่ และคาดว่าจะเริ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้บาทแข็งค่า และหากว่าเงินบาทมาแข็งค่าในช่วงที่ไตรมาส 3 ที่ gold spot มีแนวโน้มลดลง จะยิ่งทำให้ราคาทองคำลดลง ซึ่งจะเป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าซื้อเก็บ

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ราคาทองคำไทยมีการยกฐานมาอย่างต่อเนื่อง จนมาปัจจุบัน ฐานของราคาน่าจะอยู่แถว 30,500 บาท แต่ทั้งนี้ การที่ราคายกฐานมาต่อเนื่อง ทำให้เห็นได้ว่าการลงทุนในทองคำไทยค่อนข้าจะมีความปลอดภัย เพราะอย่างน้อยก็ยังมีค่าเงินบาทมาช่วยหนุนเอาไว้อีกส่วน

และถ้าดูจากสถิติที่ราคาทองไทยมีการยกฐานมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีแรงหนุนที่ดี ทำให้คาดการณ์ว่า ในอนาคต ราคาทองคำไทยมีโอกาสที่จะทะลุจุดสูงสุดเดิมแถว 32,850 บาท เพื่อไปยังเป้าหมายที่บาทละ 34,000 บาท ได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะ