ทองคำ จะไหวมั้ย ! ลดลงต่อเนื่อง 7 เดือน ร่วมกว่า 300 ดอลลาร์
ราคาทองคำ ยังคงปรับตัวลดลงติดต่อกัน 7 เดือน ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ปี 1968 หรือในรอบกว่า 5 ทศวรรษ โดยในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงอีก $27 หรือ 1.4%
หากจะนับตั้งแต่สิ้นเดือน มี.ค. ที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 2,000 ดอลลาร์ เมื่อรัสเซียเริ่มบุกยูเครน จนถึงขณะนี้ ทองคำได้ลดลงมากกว่า 15% หรือ ประมาณ 300 ดอลลาร์
ขณะที่ แนวโน้มราคาทองคำยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังจะประกาศการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ติดต่อกัน เป็นครั้งที่ 4
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายคนยังคงถกเถียงกันถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟด หรือ อย่างน้อยก็มีความเป็นไปได้ที่จะอาจจะมีการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
แต่จากรายงานล่าสุด ของ Goldman Sachs ชี้ว่า
เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 5% ซึ่งสูงกว่าที่ธนาคารคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจากการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดได้คาดการณ์ว่า จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% ในปีนี้ และ 4.6% ในปีหน้า
ทั้งนี้ Goldman Sachs ประเมินว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในสัปดาห์นี้ และ อีก 0.50% ในเดือน ธ.ค. และ 0.25% ในเดือน ก.พ. และ มี.ค.
นอกจากนี้ ยังเสริมว่า จากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูง และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลง และความกังวลเรื่องมาตรการผ่อนคลายก่อนเวลาอันควร จะเป็นสาเหตุหลักที่เฟดจะกลับมาใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น หลังจากเดือน ก.พ.
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมของเฟดในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง คำถามหลัก ก็คือว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากการประชุมเดือน พ.ย. หรือไม่ ซึ่งการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นผลดีต่อทองคำ
ที่มา : Kitco.com
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.