ชี้ราคาทองระยะสั้นถูกกดดันหนัก แนะให้จับตา FED ขึ้นดอกเบี้ยมากว่าลด QE

ชี้ราคาทองระยะสั้นถูกกดดันหนัก แนะให้จับตา FED ขึ้นดอกเบี้ยมากว่าลด QE

หลังจากที่ราคาทองคำร่วงลงกว่า  30 ดอลลาร์ แตะ1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์มองตรงกัน ตลาดได้เข้าสู่ภาวะขาลง แต่ยังจับตามองการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

Frank Cholly  senior market strategist RJO Futures กล่าวกับ Kitco News ว่าตลาดเข้าสู่ภาวะหมี แนวโน้มระยะสั้นราคาทองคำได้ปรับตัวลดลง หลังยอดขายปลีกได้พลิกกลับมา ซึ่งจะตอกย้ำความคิดที่ว่าเฟดจะเร่งปรับนโยบายการเงิน และหากตัวเลขเศรษฐกิจยังดีขึ้นต่อเนื่อง ราคาทองคำก็อาจถูกเทขายอีกครั้ง โดยผลตอบแทนบอนด์ยีลด์เพิ่มขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อทองคำ และอาจเห็นราคาแตะ 1,720 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งดูจากแนวโน้มแล้วมันเป็นไปได้เพราะราคาจะลดลงแค่ 30 ดอลลาร์

photo by Zlaťáky.cz | pexels.com
photo by Zlaťáky.cz | pexels.com

ขณะที่ Bart Melek head of global strategy TD Securities Bart กล่าวว่าปัญหาอีกประการหนึ่งของทองคำในขณะนี้คือการขาดความสนใจจากผู้ซื้อรายใหม่ ผู้ค้าพร้อมจะเทขายหากตัวเลขเศรษฐกิจดีกว่าที่คาดไว้ และเชื่อว่าเฟดจะไม่ลังเลที่จะเริ่มลด QE

แต่ Melek มองว่าราคาทองคำไม่น่าจะลงต่ำกว่านี้มาก แม้ว่าเฟดจะประกาศนโยบายอะไรบางอย่างออกมา  โดยมองว่าที่ระดับ $1,740 ยังคงเป็นแนวรับที่ค่อนข้างดี แต่หากหลุดลงไปอาจจะเห็น 1,730 ดอลลาร์ แต่ยังเชื่อว่าไม่น่าจะลงไปลึกกว่านี้

ส่วน James Knightley. chief international economist ING มองว่า ในการประชุมครั้งนี้ เฟดจะอัพเดทการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่และพล็อตดอท แต่เรื่องใหญ่จะเป็นการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ของจนท.เฟด อยากให้เริ่มดำเนินการในปี 2565

CR : kitco news