ภาพรวมการเคลื่อนไหวของ ราคาทองคำ ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จะค่อนข้างเงียบ แต่เมื่อวันศุกร์ ราคาได้พุ่งแรงร่วม 50 ดอลลาร์ จากระดับ $1,825 ไปแตะ $1,875 ก่อนจะวกมาปิดวันและสัปดาห์ที่ $1,871
เนื่องจากนักลงทุนตอบสนองต่อแรงกดดันเงินเฟ้อ เดือน พ.ค. ที่พุ่งแตะ 8.6% สวนทางการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า FED จะสามารถลดอัตราเงินเฟ้อได้จริงหรือไม่ แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. และ ในเดือน ก.ค. แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

David Einhorn, founder of Greenlight Capital กล่าวว่า
ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญ เนื่องจากเฟดกำลังเผชิญหน้ากับการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยเฟดไม่มีเครื่องมือในการหยุดเงินเฟ้อ เพราะเฟดต้องเลือกระหว่างการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ กับการสนับสนุนนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่ต้องการประคองภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
ซึ่ง David Einhorn มองว่า เฟดต้องเลือกอย่างหลัง เมื่อถึงจุดนั้น นักลงทุนควรจะมีทองคำอยู่ในพอร์ตการลงทุนบ้าง
แต่ไม่ใช่เพียงแค่นักลงทุนที่มองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญในพอร์ตการลงทุน เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาทองคำโลกได้เปิดเผยการสำรวจทองคำของธนาคารกลางประจำปี ซึ่งมีธนาคาร 57 แห่งเข้าร่วม โดย 25% ระบุต้องการเพิ่มทองคำสำรองในอีก 12 เดือน ข้างหน้า

นักวิเคราะห์ระบุในรายงานฉบับนี้ว่า ความต้องการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากความกังวลที่เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับวิกฤตการเงินโลกที่อาจเกิดขึ้น และจะเกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในระบบเศรษฐกิจที่เป็นสกุลเงินสำรอง
ทั้งนี้ ธนาคารโลกได้ปรับลดแนวโน้มการเติบโตทั่วโลก เหลือเพียง 2.9% ในปี 2565 ลดลงจากตัวคาดการณ์เมื่อช่วงเดือน ม.ค. ซึ่งอยู่ในระดับ 4.1%