หลังจากที่สมาคมค้าทองคำได้ ประกาศปรับส่วนต่างระหว่าง ราคาทองคำแท่งขายออก และ ราคาทองคำแท่งรับซื้อคืน เพิ่มขึ้น เป็นบาทละ 300 บาท ไปเมื่อวันที่ 25-27 มีนาคม
สาเหตุจากวงจรการค้าทองคำในตลาดโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ก่อนที่จะประกาศปรับลดลงเหลือบาทละ 200 บาท เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (1 มิ.ย.) สมาคมค้าทองคำ ได้ประกาศให้ปรับมาใช้ส่วนต่างตามปกติ คือ บาทละ 100 บาท

การที่สมาคมค้าทองคำ ได้กลับมาประกาศใช้ส่วนต่างราคาซื้อขายในอัตราเดิม เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกเริ่มใกล้เคียงภาวะปกติ ซึ่งการปรับขึ้นส่วนต่างราคาที่ผ่านมา ทางสมาคมฯ ได้อ้างอิงราคาในตลาดโลก บวกกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่เกิดขึ้นจริง หรือที่เรียกว่าค่าพรีเมี่ยม ซึ่งขณะนี้ ส่วนต่างราคาซื้อขายในตลาดโลกเริ่มใกล้เคียงปกติแล้ว แต่เรื่องการนำเข้า-ส่งออกยังมีปัญหา รวมถึงโรงงานรีไฟน์ทองในต่างประเทศเปิดทำการเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่สมาคมฯ เห็นว่าราคาส่วนต่างซื้อ-ขาย สามารถกลับมาใช้ราคาปกติได้ จึงประกาศใช้ไปก่อน หากในอนาคต ราคาส่วนต่างการซื้อขายในตลาดโลกกลับมาผันผวนหนัก ก็อาจจะต้องกลับมาพิจารณากันอีกครั้ง นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวกับ GoldAround.com
การปรับช่องว่างราคา ซื้อ-ขาย ลงมาครั้งนี้ ก็เพื่อให้การค้าทองคำในประเทศมีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งยอมรับว่าการขยายช่องว่างราคาในช่วงที่ผ่านมา อาจจะทำให้ลูกค้าเกิดความอึดอัด การลงทุนทองคำทำได้ค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ ก็เชื่อว่าการค้าขาย และการลงทุนทองคำ จะกลับมาคึกคักเช่นเดิม

การกำหนดราคาทองคำ ในสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ปรับลดส่วนต่างเหลือ 100 บาท
ส่วนเรื่องการนำเข้าและส่งออกทองคำนั้น ขณะนี้ยังทำได้น้อยมาก เพียงสัปดาห์ละไม่กี่เที่ยว จากเดิมที่ขนส่งสัปดาห์ละหลายสิบเที่ยว เนื่องจากสายการบินเปิดให้บริการเป็นบางส่วน และคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะ กว่าทุกอย่างจะเป็นปกติ แต่ไม่ได้สร้างปัญหาในการดำเนินธุรกิจค้าทองคำในประเทศมากนัก เพราะขณะนี้ ปริมาณทองคำที่ลูกค้านำมาขายก็ลดลงมาก และปริมาณทองคำที่มีอยู่ก็เพียงพอใช้หมุนเวียนในประเทศได้ แต่สิ่งที่กังวล ก็คือ เรื่องของตัวเลขนำเข้าและส่งออกของประเทศ เพราะที่ผ่านมา การส่งออกทองคำถือเป็นสินค้าหลักอีกหนึ่งชนิด ที่ช่วยให้ดุลการค้าของประเทศดีขึ้น แต่ปัจจุบันตัวเลขส่งออกทองคำลดลงไปมาก
นายจิตติฯ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาทองคำในขณะนี้ว่า ในภาพรวมค่อนข้างจะได้รับปัจจัยบวกหลายเรื่อง โดยเฉพาะจากทางฝั่งอเมริกา ทั้งปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการประกาศใช้ QE แบบไม่จำกัด ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน ที่ดูเหมือนจะเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น และล่าสุด ก็คือ เรื่องของการจลาจลในหลายพื้นที่ของอเมริกา จึงทำให้มีความมั่นใจว่า ราคาทองคำจะสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งในปีนี้ และราคาทองคำมีโอกาสจะทะลุ บาทละ 27,000 บาท อีกครั้ง
