มาดูความเคลื่อนไหวทางการเมืองของสหรัฐ ที่ได้เพิ่มดีกรีความร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี เมื่อนางแนนซี เพโลซี จากพรรคเดโมแครต ได้นั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกสมัย หลังจากชนะคะแนนโหวตในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ด้วยคะแนน 216 ต่อ 209 ทำให้เจ้าตัวนั่งตำแหน่งนี้เป็นสมัยที่ 4
นอกจากนี้ ขณะที่ นายเควิน แมคคาร์ธี ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรเป็นสมัยที่ 2
นางเพโลซี ได้ระบุว่า ภารกิจเร่งด่วนคือ การเอาชนะการแพร่ระบาดของ ไวรัส COVID-19 เพราะขณะนี้ขาวอเมริกัน เชื้อแล้วกว่า 20 ล้านคน และมีคนตกงานจำนวนหลายล้านคน และจะต้องทำให้สำเร็จ”
ทั้งนี้สภาคองเกรสชุดใหม่จะประชุมในวันพุธที่ 6 ม.ค.นี้ เพื่อนับคะแนนโหวตอย่างเป็นทางการของคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ กลุ่มวุฒิสมาชิกของสหรัฐ 11 ราย ภายใต้การนำของนายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกรัฐเท็กซัส ได้ประกาศคัดค้านการรับรองชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโจ ไบเดน ในวันดังกล่าว ยกเว้นว่าสภาคองเกรสจะจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อตรวจสอบผลการเลือกตั้งในรัฐที่ตกเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งเป็นเวลา 10 วัน
และก่อนหน้านั้นคือวันอังคารที่ 5 ม.ค. จะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ซึ่งจะตัดสินว่าพรรคเดโมแครตหรือรีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา หากพรรคเดโมแครต ชนะการเลือกตั้ง ก็จะทำให้ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะทำให้ “โจ ไบเดน” สามารถบริหารงานได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
