- Advertisement -

ราคาทองคำ ยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง จากข่าวคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมนโยบายการเงิน ในวันที่ 3-4 พ.ค.

โดยตลาดคาดการณ์เกือบ 100% ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% หรือ 50 bps สู่ระดับ 0.75-1.0%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังปรับตัวรับโอกาสที่เฟดจะขึ้นแบบ Bigger คือ

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.75% หรือ 75 bps ในการประชุมเดือน มิ.ย. ด้วย หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มี.ค. พุ่งขึ้น 8.5% เมื่อเทียบรายปี สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 1981 เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เดือน มี.ค. พุ่งขึ้น 1.2% เป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2005

- Advertisement -

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือน มี.ค. พุ่งขึ้น 6.5% เมื่อเทียบรายปี สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 1982

บวกรวมกับถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ค. พร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ กระตุ้นการคาดการณ์ว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว แบบ Bigger ยิ่งกว่าเดิมเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

สอดคล้องกับ Nomura Holdings Inc. ที่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งละ 0.75% ในการประชุมเดือน มิ.ย. และ ก.ค. และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งละ 0.25% ในทุกการประชุมที่เหลือของปีนี้ ซึ่งถือเป็นการคาดการณ์ที่ Hawkish อย่างมาก

นอกจากการคาดการณ์เรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วนั้น ตลาดคาดการณ์อีกว่า เฟดจะประกาศปรับลดขนาดงบดุลลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (พันธบัตรเดือนละ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และหลักทรัพย์ MBS 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน) ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่เฟดเคยส่งสัญญาณในรายงานการประชุมเฟดประจำเดือน มี.ค.

- Advertisement -

การคาดการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้หนุนดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะ 102.385 ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2020 จนกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนบริเวณ 1,891.81 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่า ตลาดทองคำได้ Price in การคาดการณ์ดังกล่าวไปบางส่วนแล้ว

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) กล่าวกับ GoldAround.com ว่า ปฏิกิริยาการตอบสนองของราคาทองคำ ต่อผลการประชุมเฟด จะขึ้นอยู่กับว่า เฟดจะส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินในเชิง Hawkish มากกว่าคาด หรือ น้อยกว่าคาด ทำให้ YLG แบ่ง Scenario ที่เกิดขึ้นได้เป็น 3 Scenarios ดังนี้

ทั้งนี้ ผลการประชุมเฟดยังคงส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้ทั้งทิศทางบวกและทิศทางลบ โดยหากเฟดส่งสัญญาณในเชิง Hawkish มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จะเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่า ซึ่งจะส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำได้

ในทางกลับกัน หากเฟดส่งสัญญาณในเชิง Hawkish น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อทองคำ และถ้าหากผลการประชุมเฟดสอดคล้องกับการคาดการณ์ อาจส่งผลให้ราคาทองคำเกิดแรงซื้อ Buy the Fact หลังจากราคาทองคำ Price in ผลการประชุมเฟดไปบางส่วนแล้ว

ดังนั้น แนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจทยอยลดสถานะก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 3-4 พ.ค. นี้

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มาก แนะนำติดตามผลการประชุมเฟดอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนให้ทันท่วงที พร้อมใช้ปัจจัยทางเทคนิคมาช่วยในการตัดสินใจลงทุน

นี่คือการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ในการประชุม FOMC ในช่วงต้นเดือน พ.ค. พรุ่งนี้มาตามกันต่อถึงมุมมองเชิงเทคนิค และการปรับแผนการลงทุนทองคำหลังจากนี้

ขอขอบคุณ : YLG

- Advertisement -